เอเอฟพี/เอพี/เอเจนซีส์ – แหล่งข่าวในรัฐบาลประธานาธิบดีเม็กซิโก เอ็นริเก เปญา นิเอโต ระบุล่าสุดว่า ผู้นำแดนจังโก้อาจจะยกเลิกการเดินทางไปสหรัฐฯเพื่อพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากในวันพุธ(25 ม.ค) ผู้นำสหรัฐฯได้ทำตามคำมั่นสัญญาด้วยการลงนามคำสั่งอำนาจประธานาธิบดี ให้เริ่มการก่อสร้างกำแพงชั้นเดียวกั้นพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯที่มีพรมแดนติดเม็กซิโกทันที โดยในแถลงการณ์ของผู้นำเม็กซิโกที่ออกมาล่าสุด ระบุว่า ทางเม็กซิโกจะไม่มีวันยอมจ่ายค่าสร้างกำแพงใดๆเด็ดขาด”
เอพีรายงานเมื่อวานนี้(25 ม.ค)ว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เม็กซิกันยืนยันว่า ประธานาธิบดีเม็กซิโก เอ็นริเก เปญา นิเอโต พิจารณาที่จะยกเลิกการเดินทางไปสหรัฐฯเพื่อพบกับผู้นำคนใหม่อเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว หลังจากทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งประธานาธิบดี ให้เริ่มต้นโครงการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนทางใต้ที่มีระยะทางเกือบ 2,000 ไมล์
โดยในวันพุธ(25 ม.ค) เปนญา เนียโต ออกแถลงการณ์สั้นๆในช่วงค่ำไปยังประชาชนเม็กซิกัน ยืนยันจุดยืนรัฐบาลของเขาถึงการสร้างกำแพงกั้นเขตแดนของทรัมป์ว่า
“ผมขอกล่าวซ้ำอีกครั้งว่า ทางเรา...เม็กซิโกจะไม่มีวันยอมจ่ายค่าสร้างกำแพงใดๆเด็ดขาด” ผู้นำเม็กซิโกแถลง
และกล่าวต่อว่า “เม็กซิโกยังคงยืนยันความเป็นมิตรกับประชาชนชาวสหรัฐฯ และมีความตั้งใจที่จะหาข้อยุติร่วมกับรัฐบาลของพวกเขา” หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงาน
เอเอฟพีชี้ว่า และในขณะเดียวกันภายในประเทศ ผู้นำเม็กซิโกถูกสมาชิกรัฐสภาเม็กซิกันกดดันให้ยกเลิกการเดินทางไปพบกับทรัมป์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ม.ค ที่จะถึงนี้
แต่อย่างไรก็ตามเอเอฟพีระบุว่า ดูเหมือนเปญา นิเอโต ได้ประกาศว่า เขาอยู่ในระหว่างการรอรายงานจากตัวแทนรัฐบาลเม็กซิกันที่ได้มีการประชุมหารือกับสหรัฐฯในกรุงวอชิงตัน ดีซีในสัปดาห์นี้เสียก่อน รวมไปถึงการหารือกับบรรดาผู้ว่าการรัฐต่างๆและสมาชิกรัฐสภาเม็กซิกันก่อนที่จะทำการตัดสินใจ
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก ลูอิส วิดีกาไรย์ (Luis Videgaray) ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เม็กซิกัน เทลิวิซา เน็ตเวิร์ก จากกรุงวอชิงตัน ดีซี ระบุว่า ประธานาธิบดีเม็กซิโกอยู่ในระหว่างการตัดสินใจถึงการเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ และทำให้ในขณะนี้กำหนดการพบปะยังคงอยู่ โดยจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า
เดอะการ์เดียนรายงานต่อว่า วิดีกาไรย์ และรัฐมนตรีเศรษฐกิจเม็กซิโก อิลเดฟองโซ กัววาโด( Ildefonso Guajardo)พบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯของทรัมป์ในวันเดียวกัน(25 ม.ค)กับที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯลงนามคำสั่งสร้างกำแพงควบคุมพรมแดน