เอเอฟพี - เศรษฐกิจตุรกีอาจเสียหายเป็นมูลค่าถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากรัฐบาลหมีขาวประกาศตัดสัมพันธ์เป็น “ศูนย์” จากกรณีเครื่องบินขับไล่รัสเซียถูกทัพฟ้าตุรกียิงตกเมื่อเดือนที่แล้ว รองนายกรัฐมนตรีตุรกีแถลงเตือนวานนี้ (7 ธ.ค.)
รัสเซียได้ใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออังการา หลังฝูงบิน F-16 ของตุรกียิงเครื่องบินขับไล่ Su-24 ของรัสเซียลำหนึ่งตกในเขตแดนซีเรีย เมื่อวันที่ 24 พ.ย. จนเป็นเหตุให้นักบินคนหนึ่งต้องเสียชีวิต ซึ่งวิกฤตการณ์นี้กำลังก่อภาวะตึงเครียดครั้งใหญ่ที่สุดระหว่าง 2 ประเทศ นับตั้งแต่สงครามเย็นสิ้นสุดลง
“หากสถานการณ์ถึงขั้นเลวร้ายที่สุด คือความสัมพันธ์กับรัสเซียถูกระงับเป็นศูนย์ นั่นหมายความว่าเรากำลังพูดถึงมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจประมาณ 9,000 ล้านดอลลาร์” เมห์เม็ต ซิมเซ็ก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจของตุรกี ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์เอกชน NTV
เขาเตือนว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้จีดีพีของตุรกีลดลง 0.3-0.4 %
มาตรการตอบโต้ของมอสโกมีทั้งคำสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหาร และห้ามจำหน่ายแพ็กเกจทัวร์ไปตุรกี ซึ่งส่งผลกระทบไม่น้อยต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอังการา
ซิมเซ็ก ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซีย ตลอดจนสัญญาก่อสร้างโดยบริษัทรับเหมาสัญชาติหมีขาว ลดลงอย่างมากในช่วง 2 สัปดาห์หลังเกิดเหตุยิงเครื่องบินรบ
“นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียหายไปประมาณ 603,000 คน”
“เราเห็นว่ารัสเซียเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญเสมอมา และไม่มีเจตนาที่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากไปกว่านี้... แต่หากรัสเซียยังคงยึดถือทัศนคติแบบเดิม รัฐบาลก็จำเป็นต้องมีมาตรการตักเตือนและห้ามปรามกันบ้าง” เขาเตือน
ประธานาธิบดี รีเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน แห่งตุรกี ประกาศเมื่อวันเสาร์(5) ว่า รัฐบาลจะมองหาทางเลือกอื่นๆ มาทดแทนพลังงานที่เคยนำเข้าจากรัสเซีย โดยยืนยันว่าตุรกีจะไม่ถึงขั้น “ล่มสลาย” เพียงเพราะถูกมอสโกคว่ำบาตร
ตุรกีพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากรัสเซียมากถึงร้อยละ 55 และร้อยละ 30 ตามลำดับ
“การซื้อพลังงานจากซัพพลายเออร์รายอื่นๆ ยังมีความเป็นไปได้” เออร์โดกัน กล่าว โดยหมายถึงกาตาร์และอาเซอร์ไบจาน