รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนอย่างน้อย 18 คน ประกอบด้วย ทหารตุรกี 10 คน และพลเรือนอีก 8 คน ในวันอาทิตย์ (9 ต.ค.) เมื่อผู้ก่อเหตุซึ่งสงสัยว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด จัดการจุดบึ้มรถกระบะบรรทุกวัตถุระเบิด 5 ตันคันหนึ่งที่บริเวณด่านตรวจใกล้ ๆ กับที่ตั้งของฝ่ายทหารในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ทั้งนี้ตามการแถลงของนายกรัฐมนตรีตุรกี
นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บ 27 คน โดยเป็นทหาร 11 คน และพลเรือนอีก 16 คน จากเหตุระเบิดครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นที่ด่านตรวจใกล้ ๆ สถานีกองทหารรักษาความสงบเรียบร้อย (gendarmerie station) ตำบลดูรัค ห่างจากเมืองเซมดินลี ราว 20 กิโลเมตร
สถานที่เกิดเหตุคราวนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดฮักการี ซึ่งภูมิประเทศเป็นเขตเขา และอยู่ใกล้ ๆ พรมแดนติดต่อกับอิรักและอิหร่าน รวมทั้งยังเป็นพื้นที่ร้อนระอุสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในสงครามความขัดแย้งระหว่างกองทหารตุรกีกับกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดของพรรคคนงานเคอร์ดิสถาน (พีเคเค) ซึ่งดำเนินมาราว 3 ทศวรรษแล้ว
สำนักงานผู้ว่าการจังหวัดฮักการี แจ้งว่า การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 9.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 13.45 น. เวลาเมืองไทย) เมื่อมีรถกระบะคันหนึ่งแล่นตรงไปที่ด่านตรวจ แล้วไม่ยอมหยุดวิ่งแม้ทหารจะสั่ง ดังนั้น กองทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจึงเปิดฉากยิง
ครั้นแล้วระเบิดในพาหนะคันนั้นก็ถูกจุดขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรี บินาลี ยิลดิริม บอกพวกผู้สื่อข่าวว่า ประกอบด้วย วัตถุระเบิดจำนวนถึงราว 5 ตัน
ขณะที่สำนักข่าวอนาโดลู ของทางการตุรกี รายงานว่า แรงระเบิดทำให้เกิดรูขนาดใหญ่มากที่ถนน โดยมีความกว้างระหว่าง 10 - 15 เมตร และลึกสุดถึง 7 เมตร นอกจากนั้น ยังทำให้ประตูใหญ่ของสถานีกองทหารแห่งนี้ประสบความเสียหายหนัก
สำนักงานผู้ว่าการจังหวัด แจ้งว่า ภายหลังเกิดเหตุ ฝ่ายทหารได้ออกติดตามค้นหาผู้ก่อเหตุ โดยใช้การปฏิบัติการทางอากาศอย่างกว้างขวาง เพื่อจับกุมพวกติดอาวุธพีเคเค ซึ่งเชื่อกันว่าได้เปิดฉากยิงใส่ขณะใกล้ถึงเวลาโจมตีด้วยรถกระบะปิกอัพบอมบ์ เพื่อหันเหความสนใจของทหารในด่านตรวจ
เฮลิคอปเตอร์ทหารยังได้บินนำตัวผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลต่าง ๆ ในแถบนั้น ขณะที่ภาพวิดีโอซึ่งเผยแพร่ทางโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นเติร์ก แสดงให้เห็นทหารออกมารักษาการณ์ และชาวบ้านเที่ยวเดินดูซากความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ทางการผู้รับผิดชอบของตุรกีได้สั่งเตรียมพร้อมในระดับสูงอยู่แล้ว เพราะคาดว่าอาจเกิดเหตุโจมตีขึ้นในวันอาทิตย์ (9) ซึ่งเป็นวันครบ 18 ปีตั้งแต่ที่ อับดุลเลาะห์ โอคาลัน ผู้นำของพีเคเค หลบหนีไปยังซีเรียก่อนที่จะถูกกองกำลังรบพิเศษของตุรกีจับกุมในเดือนกุมภาพันธ์ปีดังกล่าว นับแต่นั้นเขาก็ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำบนเกาะแห่งหนึ่งใกล้ ๆ เมืองอิสตันบูล
ประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน มักออกมาวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อย ๆ ในเรื่องที่เขาเห็นว่าฝ่ายตะวันตกให้ความสนับสนุนไม่เพียงพอต่อตุรกีในการต่อสู้ปราบปรามพีเคเค และรัฐมนตรีพลังงาน เบรัต อับบายรัค ก็เรียกร้องอีกในวันอาทิตย์ (9) ให้เหล่าพันธมิตรของตุรกีแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
“เปลงเพลิงแห่งการก่อการร้ายนี้ยังคงเผาไหม้ประเทศของเรา แผดเผาทั่วทั้งภูมิภาคและทั่วทั้งโลกในแต่ละวันที่ผ่านพ้นไป เราต้องแสดงความจริงใจให้มากยิ่งกว่าที่เคยเป็นมาในกระบวนการนี้” อัลบารัค ระบุในคำปราศรัยซึ่งกล่าวต่อที่ประชุมด้านพลังงานในนครอิสตันบูล