รอยเตอร์/เอเอฟพี - ประธานสภาล่างรัสเซียเมื่อวันศุกร์ (27 พ.ย.) เตือนว่ามอสโกมีสิทธิ์ที่จะตอบโต้ทางทหารต่อกรณีเครื่องบินรบของพวกเขาถูกตุรกียิงตกเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางข้อสงสัยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศถึงความตั้งใจของอังการาในการต่อสู้กับก่อการร้าย
ตุรกี ชาติสมาชิกนาโตและรัสเซียตกอยู่ท่ามกลางสงครามน้ำลายหลังเครื่องบินรบอังการายิงเครื่องบินรบของมอสโกตกใกล้ชายแดนซีเรียเมื่อวันอังคาร (24 พ.ย.) เหตุการณ์นี้ยังกระพือวิกฤตความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ด้วยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน บอกว่ารู้สึกเหมือนโดนแทงข้างหลังและเรียกร้องคำขอโทษจากผู้นำตุรกี
อย่างไรก็ตาม นายเรเซพ ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีปฏิเสธความต้องการของฝั่งเครมลินด้วยอารมณ์เกรี้ยวโกรธและบอกว่าทางปูตินไม่ยอมรับโทรศัพท์เขาเองหลังจากเกิดเหตุ ก่อนที่ในวันศุกร์ (27 พ.ย.) นายเออร์โดกัน ระบุว่าเขาต้องการพบปะพูดคุยกับปูติน รอบนอกการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในกรุงปารีส ที่กำลังมาถึง
ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งของโรมาเนีย นายเซอร์เก นาริชคิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซีย กล่าวว่า “นี่คือการเจตนาฆาตกรรมทหารของเรา และการกระทำนี้จะต้องถูกลงโทษ”
เหตุยิงเครื่องบินรัสเซียตก ถือเป็นหนึ่งในการกระทบกระทั่งกันครั้งเลวร้ายที่สุดระหว่างสมาชิกชาติหนึ่งของนาโต้กับรัสเซีย และก่อความยุ่งยากซับซ้อนเพิ่มเติมแก่ความพยายามของนานาชาติในการสู้รบกับพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส)
“เรารู้ว่าใครเป็นคนทำ และพวกเขาควรถูกพิพากษา ในขณะเดียวกันแน่นอนว่าจะมีการตอบโต้ตามมาตามกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ และนอกเหนือจากนี้รัสเซียยังมีสิทธิ์ตอบโต้ทางทหารด้วย” นาริชคินกล่าว
นายนาริชตินบอกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรการทางเศรษฐกิจตอบโต้ตุรกีในอนาคต พร้อมระบุว่ามอสโกได้จัดสรรทรัพยากรทางทหารเพิ่มเติมในวันพฤหัสบดี(26พ.ย.) เพื่อเสริมความปลอดภัยแก่เครื่องบินรบรัสเซียที่กำลังปฏิบัติภารกิจทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพวกก่อการร้ายไอเอสและกลุ่มอื่นๆในซีเรีย ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานล้ำสมัยเอส-400
เหล่าผู้นำโลกในนั้นรวมถึงจีน เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหลีกเลี่ยงทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย อย่างไรก็ตามดูเหมือนสงครามน้ำลายระหว่างสองฝ่ายคงไม่จบลงง่ายๆ ด้วยในวันศุกร์ (27 พ.ย.) นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตีต่างประเทศรัสเซีย ออกมาตั้งคำถามว่าตุรกีมีความตั้งใจจริงที่จะต่อสู้กับก่อการร้ายหรือไม่
“เรามีคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงความเคลื่อนไหวของอังการา และความตั้งใจที่แท้จริงของพวกเขาในการกำจัดพวกก่อการร้าย” ลาฟรอฟ กล่าวหลังจากหารือกับนายวาลิด อัล-มูอาเลม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียในมอสโก
เบื้องต้นมอสโกยังปฏิเสธตอบโต้ทางทหาร แต่ประกาศกร้าวว่าจะใช้มาตรการแก้แค้นอย่างกว้างขวาง โดยมีเป้าหมายเล่นงานทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจตุรกี ในนั้นรวมถึงการท่องเที่ยว การเกษตรและการลงทุน
ล่าสุดในวันศุกร์ (27 พ.ย.) รัสเซียเผยว่าพวกเขาจะระงับกฎเกณฑ์ไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับพลเมืองตุรกีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป เพื่อแก้แค้นที่อังการายิงเครื่องบินมอสโกตก
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีปูติน เตือนพลเมืองว่าไม่ควรเดินทางไปยังตุรกี จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวรัสเซีย จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศออกประกาศในวันพฤหัสบดี (26 พ.ย.) เรียกร้องพลเมืองที่อยู่ในตุรกีแล้วให้เดินทางกลับมาตุภูมิ โดยอ้างถึงภัยคุกคามก่อการร้ายที่ยังมีอยู่