เอเอฟพี - สองมือปืนกราดยิง 14 ศพที่ศูนย์พัฒนาผู้พิการในเมืองซานเบอร์นาดิโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย หมกมุ่นกับแนวคิดสุดโต่งมาระยะหนึ่ง และเคยไป “ฝึกยิงปืน” หลายที่ก่อนจะมาก่อเหตุสังหารหมู่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการสหรัฐฯเผยวานนี้ (7 ธ.ค.)
สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ซึ่งรับหน้าที่คลี่คลายคดีกราดยิงเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เปิดเผยข้อมูลล่าสุด หลังจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศออกสื่อทีวีถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศว่าจะทำลายกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ให้สิ้นซาก และล่าตัวบรรดาสมุนไอเอส
แกนนำไอเอสได้ออกมาสดุดีการกระทำของ ซายเอ็ด ฟารุก และ ตัชฟีน มาลิก พร้อมยกทั้งคู่เป็น “ทหาร” ของรัฐอิสลาม แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าสองผัวเมียเป็นสมาชิกของกลุ่มโดยตรงหรือไม่
“จากการสืบสวนที่คืบหน้าไปมากทำให้เราได้ทราบข้อมูล และเชื่อว่ามือปืนทั้งสองเริ่มรับแนวคิดสุดโต่งมาระยะหนึ่งแล้ว” เดวิด โบว์ดิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการเอฟบีไอในนครลอสแองเจลิส บอกกับสื่อมวลชนเมื่อวันจันทร์ (7)
“คำถามสำหรับเราตอนนี้คือ พวกเขาถูกป้อนแนวคิดสุดโต่งจากใคร และอย่างไร”
“บางทีอาจจะไม่ได้รับจากใครโดยตรงก็เป็นได้ เพราะบ่อยครั้งที่แนวคิดเช่นนี้มาจากสื่ออินเทอร์เน็ต”
โบว์ดิช เผยว่า สองมือปืนซึ่งถูกวิสามัญขณะยิงต่อสู้กับตำรวจเคยตระเวนฝึกปรือที่สนามยิงปืนหลายแห่งทั่วนครลอสแองเจลิส และเพิ่งจะซ้อมมือมาไม่กี่วันก่อนก่อเหตุสังหารหมู่
แม้ โอบามา จะประกาศว่าเหตุกราดยิงที่เมืองซานเบอร์นาดิโนจัดเป็นการ “ก่อการร้าย” และเอฟบีไอก็ยืนยันเช่นนั้น แต่ทางการสหรัฐฯ ก็ยังไม่พบหลักฐานชี้ชัดว่า ฟารุก และ มาลิก เป็นสมาชิกองค์กรหรือกลุ่มติดอาวุธใดๆ
นอกจากปืนไรเฟิล 2 กระบอกและปืนพกอีก 2 กระบอกที่ใช้กราดยิงงานปาร์ตี้ ซึ่งจัดโดยสำนักงานอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งเทศมณฑลซานเบอร์นาดิโนที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัดของ ฟารุก พนักงานสอบสวนยังพบกระสุนปืนและวัตถุระเบิดอีกจำนวนมากภายในบ้านของเขา
ฟารุก ซึ่งเป็นชาวอเมริกันได้รู้จักกับ มาลิก ซึ่งเป็นหญิงเชื้อสายปากีสถานผ่านเว็บไซต์หาคู่ เขาเดินทางไปซาอุดีอาระเบียเพื่อพบกับเธอเมื่อปีที่แล้ว และตัดสินใจแต่งงานกัน
ทั้งคู่จบชีวิตลงโดยทิ้งบุตรสาววัย 6 เดือนไว้ในความดูแลของญาติ
บิดาของ ซายเอ็ด ฟารุก ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิพม์ ลา สแตมปา ของอิตาลีว่า ลูกชายสนับสนุนค่านิยมของกลุ่มไอเอส และยังหมกมุ่นเรื่องการทำสงครามกับอิสราเอล
เมื่อวันจันทร์ (7) สำนักข่าวเอบีซีได้เผยแพร่ภาพถ่ายสองผัวเมียขณะกำลังผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ เมื่อปี 2014 โดย มาลิก สวมฮิญาบสีดำเปิดเฉพาะใบหน้า ส่วน ฟารุก สวมเสื้อยาวสีขาวและหมวกแบบชายชาวมุสลิม