xs
xsm
sm
md
lg

ตร.สหรัฐฯ ค้นบ้านมือปืน “ฆ่าหมู่ 14 ศพ” ศูนย์ผู้พิการพบ “คลังกระสุน-ระเบิด” อื้อ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) เข้าไปตรวจค้นบ้านของ ซายเอ็ด ฟารุก และ ตัชฟีน มาลิก ที่เมืองเรดแลนด์ส รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากทั้งคู่ได้ก่อเหตุสังหารหมู่ 14 ศพที่ศูนย์พัฒนาผู้พิการ
เอเอฟพี - ตำรวจสหรัฐฯ พบระเบิดและเครื่องกระสุนหลายพันนัดซุกซ่อนอยู่ในบ้านพักของมือปืนชาย-หญิงที่สังหารหมู่ 14 ศพในงานปาร์ตี้ที่ศูนย์พัฒนาผู้พิการในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันพุธ (2 ธ.ค.) ซึ่งบ่งบอกว่าคนร้ายมีการเตรียมการมาอย่างรัดกุม ทว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็น “ก่อการร้าย” ออกไป

ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 แนวทางเกี่ยวกับเหตุจูงใจที่ทำให้ ซายเอ็ด ฟารุก วัย 28 ปี และ ตัชฟีน มาลิก วัย 27 ปี คู่สามีภรรยาชาวมุสลิม ตัดสินใจสาดกระสุนใส่งานปาร์ตี้วันหยุดที่เมืองซานเบอร์นาดิโน ซึ่งอยู่ห่างจากนครลอสแองเจลิสไปทางตะวันออกประมาณ 1 ชั่วโมงรถยนต์

เหตุกราดยิงครั้งนี้ถือเป็นอาชญากรรมจากอาวุธปืนครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ถัดจากกรณีสังหารหมู่โรงเรียนประถม แซนดี ฮุก ที่เมืองนิวทาวน์ มลรัฐคอนเนตทิคัต เมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2012 ซึ่งทำให้ครูและนักเรียนเด็กเล็กเสียชีวิตไปถึง 26 คน ก่อนที่คนร้ายจะยิงตัวตายตาม

จาร์รอด เบอร์กวน ผู้บัญชาการตำรวจเมืองซานเบอร์นาดิโน ระบุว่า ฟารุก กับภรรยาได้นำลูกสาววัย 6 เดือนไปฝากไว้กับแม่ยาย ก่อนจะควงกันไปที่งานปาร์ตี้ในศูนย์ภูมิภาคอินแลนด์ (Inland Regional Center) และลั่นกระสุนประมาณ 75 นัดใส่คนในงาน ซึ่งการก่อเหตุลักษณะนี้ “จำเป็นต้องเตรียมการล่วงหน้าพอสมควร”

อย่างไรก็ตาม เหตุสังหารหมู่ล่าสุดอาจมีเบื้องหลังร้ายแรงยิ่งกว่าที่หลายฝ่ายคาดคิด เมื่อตำรวจไปพบ “ระเบิด” ในรถยนต์ซึ่งบังคับด้วยรีโมตคอนโทรลจอดอยู่ในที่เกิดเหตุ และโชคดีที่ระเบิดนั้นไม่ทำงาน

เจ้าหน้าที่ยังพบกระสุนปืนราว 1,600 นัดในตัวสองคนร้าย รวมถึงในรถยนต์เอสยูวีสีดำที่พวกเขาใช้ในการหลบหนีก่อนจะถูกวิสามัญ

ทีมสืบสวนที่เข้าไปตรวจค้นบ้านของฟารุก และภรรยายังพบกระสุนปืนอีกราวๆ 5,000 นัด ระเบิดท่อ 12 ลูก รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับผลิตระเบิด

“การฆาตกรรมหมู่ที่วางแผนอย่างละเอียดลออเช่นนี้ คงไม่ใช่เพราะบันดาลโทสะในงานปาร์ตี้แน่นอน” เบอร์กวน กล่าว
ซายเอ็ด ฟารุก วัย 28 ปี
ฟารุก ไปร่วมงานสังสรรค์ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เขาทำงานอยู่ และเกิดมีปากเสียงกับคนในงาน จึงเดินเลี่ยงออกจากอาคารไปพักหนึ่ง และกลับเข้าไปอีกครั้งพร้อมภรรยา

ทั้งคู่ซึ่งแต่งชุดดำคล้ายหน่วยจู่โจมได้ใช้ปืนไรเฟิลและปืนพกกึ่งอัตโนมัติกราดยิงใส่คนในงานปาร์ตี้ จนมีผู้เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 21 คน ก่อนถึงเวลารับประทานอาหารเที่ยงเพียงเล็กน้อย

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ สั่งให้มีการลดธงครึ่งเสาทั่วประเทศจนถึงวันจันทร์หน้า (7 ธ.ค.) เพื่อไว้อาลัยแก่เหยื่อผู้เสียชีวิต พร้อมเตือนว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบเหตุจูงใจที่แท้จริงของกลุ่มมือปืน แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นก่อการร้าย

ด้านสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ก็ระบุว่า “ยังเร็วเกินไป” ที่จะฟันธงแรงจูงใจของคนร้ายทั้งสอง

ผู้ที่รู้จักมักคุ้นกับสามีภรรยาคู่นี้บอกกับเอเอฟพีว่า ฟารุก ซึ่งทำงานเป็นผู้ตรวจสอบประจำสำนักงานอนามัยสิ่งแวดล้อมได้สมรสกับ มาลิก ซึ่งเป็นหญิงเชื้อสายปากีสถาน ระหว่างเดินทางไปนครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อปีที่แล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจ เบอร์กวน ระบุว่า ทั้งคู่ไม่เคยมีประวัติก่ออาชญากรรมาก่อน แต่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งระบุว่า ฟารุก “มีแนวคิดหัวรุนแรง” และเคยติดต่อกับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายในต่างประเทศ

อิหม่ามประจำมัสยิดในชุมชนออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีอะไรบ่งชี้มาก่อนว่า ฟารุก เป็นพวกสุดโต่ง

เมื่อวานนี้ (3) ทางการสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 14 คนในเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาผู้พิการ โดยเป็นชาย 8 คน และหญิงอีก 6 คน



กำลังโหลดความคิดเห็น