ผู้ถือหุ้น “โนเกีย” ลงมติท่วมท้น รับรองแผนผนวกกิจการ “อัลคาเทล-ลูซองต์” หวังทวงบังลังก์ตลาดโทรคมนาคมโลก

เอเจนซีส์ / MGR online - ผู้ถือหุ้น “โนเกีย” เปิดประชุมสมัยวิสามัญในกรุงเฮลซิงกิในวันพุธ (2 ธ.ค.) เห็นชอบให้บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่แห่งฟินแลนด์เข้าผนวกกิจการของบริษัทคู่แข่งสัญชาติฝรั่งเศส-อเมริกัน อย่าง “อัลคาเทล-ลูซองต์” เพื่อปูทางไปสู่การสร้างเครือข่ายยักษ์ใหญ่ของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยครองตลาดเป็นเบอร์หนึ่งของโลก

รายงานข่าวระบุว่า ที่ประชุมสมัยวิสามัญของผู้ถือหุ้นโนเกียที่จัดขึ้นในกรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ ได้ลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 99.49 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมการประชุม ให้บริษัทของตนซึ่งครั้งหนึ่งเคยครองตำแหน่งผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของโลก เข้าควบรวมกิจการของอัลคาเทล-ลูซองต์ ซึ่งจะส่งผลให้โนเกียได้มีโอกาสผงาดกลับคืนสู่ความเป็นยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมอีกคำรบ

ขณะที่ราจีฟ ซูริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของโนเกีย ระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นก้าวย่างสำคัญสู่อนาคตที่ดีกว่าของบริษัท และว่าการควบรวมกิจการในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นได้เพราะวัฒนธรรมองค์กรและมุมมองในการดำเนินธุรกิจที่คล้ายคลึงกันระหว่างบริษัททั้งสอง

แหล่งข่าวภายในบริษัทโนเกียเผยว่า หากการควบรวมกิจการระหว่างโนเกียและอัลคาเทล-ลูซองต์เสร็จสิ้น จะก่อให้เกิดอาณาจักรของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีรายได้รวมกันเกือบ 25,000 ล้านยูโร (ราว 1.16 ล้านล้านบาท) และจะเปิดทางให้โนเกียได้ขยายกิจการของตนจากเครือข่ายโทรคมนาคมไปสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตลอดจน การเป็นผู้ให้บริการจัดเก็บไฟล์และรูปภาพผ่าน “คลาวด์” ทั้งนี้ก็เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของโนเกียให้สามารถต่อกรกับคู่แข่งสำคัญในตลาดอย่างค่าย “อีริคส์สัน” จากสวีเดน และ “หัวเหว่ย” จากจีน

รายงานข่าวระบุว่า ถึงแม้ที่ประชุมวิสามัญของผู้ถือหุ้นโนเกียจะลงมติเห็นชอบอย่างท่วมท้น ให้บริษัทของตนเดินหน้าแผนผนวกกิจการของอัลคาเทล-ลูซองต์ แต่แหล่งข่าวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบรวมกิจการเผยว่า ทางโนเกียอาจต้องรอจนถึงช่วง “ไตรมาสแรกของปี 2016” กว่าที่การผนวกกิจการในครั้งนี้จะมีผลสมบูรณ์ เนื่องจากยังคงเหลือขั้นตอนทางกฎหมาย รวมถึงข้อตกลงด้านแรงงาน และรายละเอียดปลีกย่อยทางธุรกิจอีกมากที่ต้องดำเนินการก่อนที่การการผนวกกิจการจะเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ