รอยเตอร์ - อัยการพิเศษของเกาหลีใต้ระบุจะพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจประกอบการตัดสินใจว่าจะจับกุมนายใหญ่ “ซัมซุง กรุ๊ป” หรือไม่ กรณีพัวพันกับคดีอื้อฉาวที่โยงถึงประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย โดยส่อเค้าว่าผู้บริหารซัมซุงจะรอดคุกหรือได้รับการผ่อนผันโทษเหมือนเหล่าผู้นำแชโบลหลายคนก่อนหน้านี้
ลี กิว-ชุล โฆษกสำนักงานอัยการพิเศษเปิดเผยในวันอาทิตย์ (15) ว่า การตัดสินใจกรณีจะเข้าจับกุม เจ วาย. ลี ผู้นำซัมซุงหรือไม่ จะเลื่อนออกไปเป็นวันจันทร์ (16) เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีร้ายแรง และพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาปัจจัยทั้งหมด ซึ่งรวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ขณะนี้อัยการพิเศษกำลังสอบสวนว่า ซัมซุง ผู้เล่นรายใหญ่สุดในบรรดากลุ่มกิจการหรือแชโบลของเกาหลีใต้ จ่ายเงิน 30,000 ล้านวอน (25.46 ล้านดอลลาร์) ให้ธุรกิจและมูลนิธิของชอย ซุน-ซิล เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีพัค เพื่อแลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนของกองทุนบำนาญแห่งชาติสำหรับการผนวกกิจการระหว่างบริษัทในเครือซัมซุงสองแห่งเมื่อปี 2015 หรือไม่ โดยในระหว่างให้ปากคำกับรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นำซัมซังปฏิเสธข้อกล่าวหาติดสินบน
การพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจประกอบการตัดสินใจอาจเป็นการยกประโยชน์ให้ลี วัย 48 ปี เนื่องจากการกำหนดโทษสถานเบากับผู้นำธุรกิจที่ทำความผิดเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบแง่ลบต่อเศรษฐกิจเป็นแนวทางปฏิบัติที่เคยมีมาก่อนในเกาหลีใต้
ทั้งนี้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมาบรรดานายใหญ่แชโบลหลายคนได้รับการลดโทษหรืออภัยโทษด้วยเหตุผลของผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น ลี คุน-ฮี พ่อของ เจ วาย. ลี ที่กลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถนับจากหัวใจวายเมื่อปี 2014 ถูกตัดสินจำคุก 3 ปีจากคดีเลี่ยงภาษีเมื่อปี 2009 แต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อน และได้รับอภัยโทษในภายหลัง
สำหรับคดีล่าสุดนี้ ซัมซุงยอมรับว่าบริจาคเงินให้มูลนิธิสองแห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทที่ปรึกษาของชอย แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าบริษัทพยายามล็อบบี้เพื่อผลักดันการผนวกกิจการระหว่าง “ซัมซุง ซีแอนด์ที” กับ “ชิล อินดัสทรีส์”
ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ชิปความจำ และทีวีจอแบนรายใหญ่ของโลกรายนี้ ชะลอการเลื่อนตำแหน่งผู้บริหารที่ปกติจะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนธันวาคมออกไป เนื่องจากบริษัทกำลังพัวพันกับคดีอื้อฉาว
โฆษกสำนักงานอัยการพิเศษแถลงว่า กฎหมายและหลักการคือเกณฑ์สำคัญที่สุด และหลังจากพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้แล้ว สำนักงานอัยการพิเศษจะตัดสินใจโดยอิงกับกฎหมายและหลักการ ทางด้านโฆษกหญิงของซัมซุง กรุ๊ป ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
ลี ผู้เป็นนายใหญ่ซัมซุง ถูกสอบปากคำนาน 22 ชั่วโมงก่อนเดินทางออกจากสำนักงานอัยการพิเศษในโซลเมื่อเช้าวันศุกร์ (13) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนคดีคอร์รัปชันที่ส่งผลให้พัคถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนเมื่อเดือนที่แล้ว ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า การหาความเชื่อมโยงระหว่างการจ่ายเงินแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ระหว่างซัมซุงกับพัคหรือตัวแทนของประธานาธิบดี มีความสำคัญต่อการสอบสวนของอัยการพิเศษ