เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสระบุปารีสพร้อมพิจารณายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หากมอสโกปฏิบัติตามคำมั่นที่ว่าจะช่วยยุติเหตุนองเลือดและนำสันติภาพกลับคืนสู่ยูเครน ขณะที่กรุงเคียฟเริ่มบังคับใช้มาตรการ “ปิดน่านฟ้า” กับสายการบินสัญชาติหมีขาว
“เราหวังว่ามาตรการคว่ำบาตรที่บังคับใช้กับรัสเซียอาจยกเลิกได้ แต่รัสเซียเองก็ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีที่ให้ไว้ในข้อตกลงกรุงมินสก์อย่างสมบูรณ์ด้วย” วอลส์กล่าว
“เราตระหนักดีถึงบทบาทและสถานะของรัสเซียทั้งในเวทีโลก ในยุโรป และในแง่ความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน”
ฝรั่งเศสและเยอรมนีรับหน้าที่คนกลางดึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมวงเจรจาสันติภาพที่เมืองหลวงของเบลารุสเมื่อต้นปีนี้ โดยมุ่งยุติการสู้รบระหว่างกองทัพยูเครนกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออก ซึ่งได้คร่าชีวิตพลเมืองยูเครนไปแล้วกว่า 8,000 คน
ข้อตกลงฉบับนี้กำหนดให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายต้องถอนอาวุธหนักออกจากแนวปะทะซึ่งมีระยะทางราว 500 กิโลเมตร ทว่าที่ผ่านมายังไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างจริงจัง
ยุโรปและสหรัฐฯ ได้มีมาตรการลงโทษแดนหมีขาว โดยอ้างว่ามอสโกปลุกปั่นและให้การหนุนหลังขบวนการแบ่งแยกดินแดนในแคว้นโดเนตสก์และลูกานสก์ของยูเครน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัสเซียปฏิเสธเสียงแข็งมาโดยตลอด
รัสเซียตัดสินใจตอบโต้ด้วยการงดนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากยุโรปหลายรายการ รวมไปถึงสินค้าจากยูเครน ทั้งยังขู่ว่าจะเลิกนำเข้าอาหารจากยูเครนโดยสิ้นเชิง หากกรุงเคียฟเข้าร่วมเป็นสมาชิกเขตการค้าเสรีกับอียูในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า
ข้อพิพาทระหว่างรัสเซียกับยูเครนเริ่มปะทุหนักขึ้นอีกเมื่อวันพุธ (25) หลังจากที่รัฐบาลเคียฟตัดสินใจงดซื้อก๊าซจากรัสเซีย และยังสั่งห้ามสายการบินแดนหมีขาวผ่านเข้าน่านฟ้าโดยเด็ดขาด
มาตรการที่ว่านี้ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ที่ร้าวลึกระหว่างอดีตชาติโซเวียตทั้งสอง แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนว่า วิกฤตการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดที่ยุโรปต้องเผชิญนับตั้งแต่สงครามบอลข่านในทศวรรษ 1990 ยังยากที่จะหาทางออก
นายกรัฐมนตรีอาร์เซนี ยัตเซนยุก แห่งยูเครน กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศว่า คำสั่งห้ามเครื่องบินรัสเซียใช้น่านฟ้านั้นสมเหตุสมผล “เพราะรัสเซียอาจใช้น่านฟ้ายูเครนเพื่อกระทำการยั่วยุ”
“นี่เป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ และเป็นการตอบโต้พฤติกรรมก้าวร้าวของสหพันธรัฐรัสเซีย”
กรุงเคียฟห้ามสายการบินรัสเซียลงจอดในยูเครนตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. แต่ยังคงอนุญาตให้ใช้น่านฟ้าผ่านไปยังประเทศอื่นได้ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (25) ซึ่งคำสั่งปิดน่านฟ้าถูกบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบ
ด้าน ก๊าซปร็อม (Gazprom) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจพลังงานของรัสเซียก็ประกาศวานนี้ (25) ว่า จะหยุดส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่ยูเครน เนื่องจากเคียฟไม่ชำระหนี้ล่วงหน้าตามกำหนด ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้วในปีนี้ที่การส่งก๊าซธรรมชาติต้องถูกระงับ
อเล็กเซย์ มิลเลอร์ ซีอีโอก๊าซปร็อม เผยว่า บริษัท นาฟโตก๊าซ (Naftogaz) ของยูเครนได้ใช้ก๊าซธรรมชาติที่จ่ายเงินล่วงหน้าไปหมดแล้ว “และยังไม่ได้ชำระค่าก๊าซล่วงหน้ามาอีก”