xs
xsm
sm
md
lg

โล่งไปอีกเปลาะ! “รัสเซีย-ยูเครน” บรรลุข้อตกลงส่งก๊าซฤดูหนาวถึงสิ้นเดือน มี.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - รัสเซียและยูเครนบรรลุข้อตกลงส่งก๊าซให้แก่สหภาพยุโรปต่อไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม ภายหลังจากที่ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน และผู้นำชาติตะวันตกเห็นพ้องว่ามีความจำเป็นที่จะต้องผลักดันข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนตะวันออกให้เห็นผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

การเจรจาระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซียและยูเครนที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) นำมาซึ่งข้อตกลงที่ช่วยให้อียูมั่นใจได้ว่าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียจะถูกส่งผ่านยูเครนมาอย่างไม่ขาดช่วงจนกระทั่งสิ้นสุดฤดูหนาว หลังเกิดความกังวลเรื่องข้อพิพาทระหว่างมอสโกและเคียฟเรื่องการส่งก๊าซไปยังเขตอิทธิพลของกบฏในภาคตะวันออก

ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน, นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี และประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ซึ่งผู้นำทั้งสี่ต่างก็เห็นพ้องว่าการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิง “มีความคืบหน้า แต่สถานการณ์ควรจะดียิ่งกว่านี้” ถ้อยแถลงจากทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุ

ผู้นำทั้ง 4 ชาติยังตกลงที่จะขอให้องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการตรวจสอบว่าแต่ละฝ่ายได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดหรือไม่

สหภาพยุโรปพึ่งพาพลังงานก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียถึง 1 ใน 3 ซึ่งครึ่งหนึ่งถูกส่งมาตามท่อก๊าซที่ตัดผ่านยูเครน

“ผมยินดีที่เราปกป้องโครงการจัดส่งก๊าซในช่วงฤดูหนาวไปยังยูเครนได้สำเร็จ” มารอส เซฟโกวิก รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปฝ่ายสหภาพพลังงานกล่าว พร้อมระบุว่าทั้งรัสเซียและยูเครนตกลงที่จะเปิดเจรจาเกี่ยวกับการจัดส่งก๊าซงวดต่อๆไป

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัท ก๊าซปรอม (Gazprom) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจพลังงานของรัสเซียขู่จะหยุดส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่รัฐบาลเคียฟ และจะผันก๊าซไปยังยูเครนตะวันออกซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซีย หลังจากที่ยูเครนเลิกส่งก๊าซเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว

แม้การสู้รบในแนวหน้าจะสงบลงเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ก็มีช่างภาพสื่อมวลชนคนหนึ่งเสียชีวิตจากกระสุนปืนครก และยังมีทหารยูเครนได้รับบาดเจ็บจากการยิงปะทะกับฝ่ายกบฏอีก 8 นาย

กองทัพยูเครนแถลงวานนี้ (2) ว่า แม้จะมีทหารเสียชีวิตไป 1 นายจากการต่อสู้ ทว่าข้อตกลงหยุดยิงยังคงมีผลบังคับในภาพรวม และทั้ง 2 ฝ่ายก็เริ่มถอนอาวุธหนักออกจากแนวปะทะบ้างแล้ว ในขณะที่ผู้ตรวจสอบจาก OSCE เตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะยืนยันว่าการสงบศึกเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ตามที่ตกลงไว้


กำลังโหลดความคิดเห็น