เอเจนซีส์ - รัฐบาลกรุงเคียฟและกบฏแบ่งแยกดินแดน ตกลงเดินหน้าข้อตกลงสันติภาพขั้นต่อไปเมื่อวันอาทิตย์ (22 ก.พ.) ด้วยการถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้า หลังจากแลกเปลี่ยนนักโทษเกือบ 200 คนในคืนวันเสาร์ (21) อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯ ยังคงออกมาข่มขู่เศรษฐกิจรัสเซียจะยิ่งสะบักสะบอม หากยังหนุนหลังให้กลุ่มกบฏละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนตะวันออก และระบุว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะตัดสินใจในวันสองวันนี้เพื่อเพิ่มมาตรการลงโทษมอสโกยกใหม่
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ยังคงมีเสียงปืนใหญ่ดังระงมในช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ (22) ทางเหนือของเมืองโดเนตสก์ ที่มั่นสำคัญของกบฏโปรรัสเซีย ในบริเวณใกล้สนามบินที่กบฏยึดได้เมื่อเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ยังมีความกังวลกันว่า มาริวโพล เมืองท่าสำคัญของยูเครนจะเป็นสนามรบดุเดือดแห่งต่อไป โดยมีรายงานว่ามีการโจมตีด้วยปืนใหญ่ต่อเนื่อง และเคียฟกล่าวหาว่า รถถังรัสเซีย 20 คันกำลังมุ่งหน้าไปที่เมืองดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางสถานการณ์การต่อสู้ที่ยังระอุ เจ้าหน้าที่ยูเครนและกบฏเผยว่า ได้ตกลงร่วมกันที่จะเริ่มถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้า ซึ่งตามข้อตกลงหยุดยิงที่ทำกันในกรุงมินสก์ในเบลารุส กำหนดเดิมให้เริ่มถอนกำลังตั้งแต่วันอังคารที่แล้ว (17) และเสร็จสิ้นในวันที่ 3 มีนาคม
เอดูอาร์ด บาซูริน ผู้นำกบฏโดเนตสก์ที่สถาปนาตัวเองเป็นสาธารณรัฐ เปิดเผยผ่านสำนักข่าวของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงเตรียมการเพื่อถอนอาวุธจริงตั้งแต่วันอังคาร (24)
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เห็นขบวนรถบรรทุกทางทหารที่บรรทุกระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน 20 คันเคลื่อนออกจากเมืองเดบัลเซเวมุ่งหน้าสู่โดเนตสก์
อีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่า ทั้งสองฝ่ายอาจยินดีปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างน้อยก็บางส่วนคือ การแลกเปลี่ยนนักโทษเมื่อคืนวันเสาร์ ซึ่งประกอบด้วยทหารยูเครน 139 นาย และนักรบกบฏ 52 คน
อย่างไรก็ดี ยังคงมีความเคลือบแคลงว่าข้อตกลงหยุดยิงจะได้รับการสานต่อจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากกบฏโจมตีเมืองเดบัลเซเว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งระหว่างโดเนตสก์กับลูกันสก์ เมื่อวันอังคารอย่างหนักกระทั่งในที่สุดทหารยูเครนต้องถอนกำลังออกมา
การจู่โจมเข้ายึดเดบัลเซเวและการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในอีกหลายพื้นที่สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งต่ออเมริกา เมื่อวันเสาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเคร์รี กล่าวขณะแถลงข่าวที่ลอนดอนว่าหากยังมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเศรษฐกิจรัสเซียที่มีปัญหาอยู่แล้วจะถูกกดดันหนักขึ้น
เคร์รียังแสดงความเชื่อมั่นว่าในอีกไม่กี่วันนี้ โอบามาจะตัดสินใจขั้นตอนต่อไปเพื่อตอบโต้การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนตะวันออก
ขณะที่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินตอบโต้ว่า มาตรการแซงก์ชันไม่ได้ช่วยคลี่คลายวิกฤตยูเครนแต่อย่างใด
นอกจากนั้น เพื่อตอกย้ำความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับยูเครน ผู้นำยุโรปหลายคนอาทิ โดนัลด์ ทัสก์ ประธานอียู ตลอดจนถึงประธานาธิบดีเยอรมนี ลิทัวเนีย มอลโดวา และโปแลนด์ ยังเข้าร่วมการเดินขบวนในเคียฟที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์เพื่อรำลึกครบรอบ 1 ปีการโค่นล้มวิกเตอร์ ยานูโควิช อดีตประธานาธิบดียูเครนที่ภักดีต่อเครมลิน ภายหลังเหตุการณ์นองเลือดบนท้องถนน โดยที่ก่อนหน้านี้รัสเซียก็มีการจัดรำลึกแต่เรียกเหตุการณ์คราวนั้นว่า เป็นการ “รัฐประหาร” ยึดอำนาจอย่างผิดกฎหมายโดยโค่นประธานาธิบดียานูโควิชที่มาจากการเลือกตั้ง