xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพยูเครนปฏิเสธถอนอาวุธหนัก ตามข้อตกลงหยุดยิง อ้างยังถูกกบฏโจมตี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นักรบกบฏแบ่งแยกดินแดนสาธารณรัฐโดเนตสก์ขับยานเกราะไปบนถนนในเมืองเดบอลต์เซเว (Debaltseve) เมืองยุทธศาสตร์ซึ่งฝ่ายกบฏยูเครนยึดครองไว้ได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รอยเตอร์ - กองทัพยูเครนปฏิเสธที่จะถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้า โดยอ้างว่าทหารยังถูกโจมตีไม่หยุด พร้อมกล่าวหาว่าฝ่ายกบฏนิยมรัสเซียยิงจรวดและปืนใหญ่ถล่มหมู่บ้านหลายแห่งทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนเมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) ส่งผลให้ข้อตกลงหยุดยิงที่ยุโรปร่วมผลักดันส่อแววล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

กระแสความหวั่นวิตกว่าข้อตกลงหยุดยิงอาจไปไม่รอดส่งผลให้สกุลเงินฮริฟเนียของยูเครนอ่อนยวบลงอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันจันทร์ (23) จนธนาคารกลางยูเครนต้องประกาศเพิ่มความเข้มงวดในการบริหารเงินตราเพื่อพยุงค่าเงิน

ฝ่ายกบฏเพิกเฉยต่อข้อตกลงหยุดยิงซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งเหตุนองเลือดที่คร่าชีวิตชาวยูเครนไปแล้วกว่า 5,600 คน และเดินหน้ายึดเมืองยุทธศาสตร์เดบอลต์เซเว (Debaltseve) ได้สำเร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญต่อกรุงเคียฟ

รัฐบาลยูเครนและชาติตะวันตกเกรงว่าฝ่ายกบฏที่มีทหารรัสเซียหนุนหลังจะรุกคืบเข้ามายึดดินแดนตอนในที่เครมลินเรียกว่า “โนโวรอสสิยา” หรือ “รัสเซียใหม่” ในขณะที่รัสเซียยืนกรานเสียงแข็งว่าไม่เคยช่วยเหลือกบฏยูเครน

การต่อสู้เริ่มบรรเทาเบาบางลง หลังจากทหารยูเครนพ่ายแพ้และยอมถอนกำลังออกจากเมืองเดบอลต์เซเวเมื่อวันพุธที่แล้ว (18) และยังปรากฏสัญญาณที่ดีในช่วงสุดสัปดาห์ เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนนักโทษราว 200 คนในช่วงค่ำวันเสาร์ (21) และบรรลุข้อตกลงเริ่มถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้าในวันอาทิตย์ (22)

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ส่อเค้าเลวร้ายลงเมื่อวานนี้ (23) โดยกรุงเคียฟแจ้งว่าทหาร 2 นายถูกสังหาร และอีก 10 นายบาดเจ็บจากการยิงต่อสู้ที่เกิดขึ้นในช่วงกลางดึก

“ตราบใดฐานที่มั่นของทหารยูเครนยังถูกถล่มไม่หยุด ก็คงพูดเรื่องการถอนอาวุธไม่ได้” วลาดิสลาฟ เซเลซนยอฟ โฆษกกองทัพยูเครน ระบุ

ดมิโตร ชาลี โฆษกกองทัพยูเครนประจำเมืองท่ามารีอูโพล ระบุว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดนใช้รถถัง ขีปนาวุธแกรด และปืนใหญ่ยิงถล่มหมู่บ้านใกล้เคียงในช่วงบ่าย ขณะที่โฆษกองทัพอีกนายหนึ่งเปิดเผยว่า หมู่บ้านชีโรคีเนซึ่งตั้งอยู่บนถนนเลียบชายฝั่งสู่มารีอูโพลก็ถูกยิงถล่มกลางดึก

เมืองท่าซึ่งมีประชากรราว 500,000 คนแห่งนี้ถูกมองว่าเป็นเป้าหมายถัดไปที่กบฏต้องการยึดครองให้ได้

เอดูอาร์ด บาซูริน ผู้บัญชาการกองกำลังกบฏ ยืนยันว่านักรบฝ่ายตนไม่ได้เปิดฉากโจมตีตามที่ถูกกล่าวหา และสถานการณ์ยังอยู่ในความสงบเรียบร้อยดี

“ขณะนี้ทุกอย่างสงบ ไม่มีการยิงเกิดขึ้นเลย” เขาให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์

วยาเชสลาฟ อะโบรสกิน หัวหน้าสำนักงานตำรวจประจำภูมิภาคโดเนตสก์ ระบุว่า ตำรวจในเมืองมารีอูโพลสามารถสกัดรถของ “กลุ่มสอดแนม” ที่พกพาระเบิดมาด้วย ทำให้เกิดการยิงต่อสู้จนตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย ขณะที่ฝ่ายกบฏเสียชีวิตไป 1 คน

ชาติตะวันตกยังหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงจะได้ผล หากฝ่ายกบฏซึ่งได้เมืองเดบอลต์เซเวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะยอมยุติความรุนแรงเพียงแค่นั้น โดยในวันนี้ (24) รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และยูเครน จะร่วมประชุมที่กรุงปารีสเพื่อหาทางผลักดันข้อตกลงสันติภาพให้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเยอรมนีได้ใช้ถ้อยคำที่รุนแรง โดยระบุว่าข้อตกลงหยุดยิง “ไร้ผล” อย่างเห็นได้ชัด

นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ แถลงต่อรัฐสภาว่า รัสเซียจะต้องถูกตะวันตกคว่ำบาตรหนักยิ่งขึ้นหากกบฏยูเครนยังพยายามที่จะขยายดินแดนต่อไป

“แทนที่จะเปลี่ยนท่าทีเสียใหม่ รัสเซียกลับยังกระทำสิ่งที่ไม่ชอบธรรมและขัดต่อกฎหมายมากขึ้นกว่าเดิม เห็นได้จากการที่พวกกบฏฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดแจ้ง” คาเมรอนกล่าว

ดักลาส ลูต ทูตสหรัฐฯ ประจำนาโต เตือนให้ทุกฝ่ายอย่าด่วนสิ้นหวังกับข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า ข้อตกลงหยุดยิงคือหนทางที่จะช่วยคลี่คลายวิกฤตความขัดแย้งได้

อย่างไรก็ตาม ปมขัดแย้งเรื่องกบฏอาจส่งผลกระทบกระเทือนถึงข้อตกลงซื้อขายก๊าซระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทำขึ้นเมื่อปลายปี 2014 โดยสัปดาห์ที่แล้วกรุงเคียฟได้หยุดส่งก๊าซไปยังพื้นที่ที่กบฏยึดครองอยู่ ทำให้รัสเซียประกาศจะส่งก๊าซให้แก่ฝ่ายกบฏโดยตรง และเมื่อวานนี้ (23) บริษัท นาฟโตก๊าซ รัฐวิสาหกิจพลังงานของยูเครน ได้แจ้งว่าบริษัท ก๊าซปร็อม ของรัสเซียไม่ได้จัดส่งก๊าซให้กรุงเคียฟตามสัญญา ทั้งๆ ที่จ่ายเงินไปแล้วล่วงหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น