เกษตรกรฝรั่งเศสขับแทรกเตอร์กว่าพันคันบุกตะลุยปารีส ประท้วงราคาผลผลิตตกต่ำ

เอเอฟพี - เกษตรกรแดนน้ำหอมพยายามปิดถนนหลายสายของเมืองหลวงฝรั่งเศสอีกครั้งในวันพฤหัสบดี (3 ก.ย.) เพื่อประท้วงเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำ โดยมีการขับรถแทรกเตอร์มากกว่า 1,000 คัน เข้าสู่ปารีส

รถแทรกเตอร์คันแรกที่มาถึงปารีส อยู่บริเวณทางตะวันออกของเมือง ขณะที่ชาวเมืองได้รับแจ้งให้หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ ส่วนการจราจรนั้นติดขัดน้อยกว่าปกติในชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้า

บรรดาเกษตรกรจากทั่วทุกมุมของประเทศ ที่ขับรถแทรกเตอร์เข้าสู่เมืองหลวงอย่างช้าๆ ต่างพากันโกรธแค้นเรื่องราคาผลผลิตที่ตกต่ำ ซึ่งพวกเขาโทษว่าเป็นเพราะการแข่งขันของต่างชาติ การคว่ำบาตรรัสเซีย รวมถึงการแข่งกันลดแลกแจกแถมของซูเปอร์มาร์เกตและตัวแทนจำหน่าย

มีเกษตรกรหลายรายที่ใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าจะถึงเมืองหลวง เนื่องจากเดินทางด้วยรถแทรกตอร์ที่ความเร็วเฉลี่ย 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รถแทรกเตอร์คันแรกที่มาถึงปารีสนั้นมาจากบริททานี ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นแหล่งผลิตนมและเนื้อหมูที่สำคัญ

สหภาพแรงงานเกษตรกร FNSEA คาดว่าจะมีรถแทรกเตอร์ 1,773 คัน พร้อมกับรถยนต์และรถบัสหลายสิบคัน ที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ ส่วนทางตำรวจบอกว่าพวกเขานับรถแทรกเตอร์ได้มากกว่า 1,300 คันอยู่ตามถนนที่มุ่งสู่ปารีส

ขณะที่ผู้ขับขี่รถยนต์จำนวนมาก ได้ทำตามคำแนะนำของตำรวจที่ให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการขับรถของตนเองในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี

“มีการจราจรติดขัดที่เกิดจากเหล่าผู้ประท้วงไม่มากนัก ยังอยู่ในวงจำกัด” โฆษกศูนย์ข้อมูลการจราจรระบุ

ด้วยปัจจัยหลายอย่างผสมกัน อาทิ การเปลี่ยนแปลงนิสัยการบริโภค ความต้องการซื้อสินค้าจากจีนที่ลดลง รวมถึงรัสเซียห้ามขนส่งสินค้าจากตะวันตกเข้าประเทศเพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรจากกรณีวิกฤตยูเครน ปัจจัยเหล่านี้ได้ทำให้ผลผลิตหลักๆ อย่าง เนื้อวัว เนื้อหมู นม ล้วนมีราคาตกต่ำ

ตำแทนของสหภาพฯ ระบุว่า จะมีกลุ่มตัวแทนเกษตรกรจำนวน 100 คน เดินทางไปยังอาคารรัฐสภาในวันพฤหัสบดี เพื่อยื่นคำร้องพร้อมทั้งบอกเล่าถึงความคับข้องใจเกี่ยวกับการเกษตรและสภาพความเป็นอยู่ในชนบทที่เจียนอยู่เจียนไปเต็มที เกษตรกรเหล่านี้ต่างก็ตั้งความหวังไว้กับบรรดา ส.ส.เอาไว้มาก

เมื่อช่วงฤดูร้อน บรรดาเกษตรกรทั่วประเทศได้ประท้วงด้วยการนำปุ๋ยมากองทิ้งไว้ตามเมืองต่างๆ ทั้งยังปิดถนน กีดขวางไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปยัง “มง แซง มิเชล” แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทางเหนือของฝรั่งเศส

ในตอนนั้นสหภาพฯ ได้เจรจากับรัฐบาล ซึ่งต่อมามีการออกแผนช่วยเหลือฉุกเฉินมูลค่ากว่า 600 ล้านยูโรในเดือนกรกฎาคม โดยเป็นลักษณะของการยกเว้นภาษีและค้ำประกันเงินกู้

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรบอกว่ามาตรการเหล่านั้นมันไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันก็มีข่าวร้ายของฟาร์มหลายแห่งออกมาเป็นระยะ โดยในกรณีที่หนักสุดนั้นถึงขนาดฆ่าตัวตาย

รัฐมนตรีเกษตรได้ประเมินว่า มีฟาร์มประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ในฝรั่งเศส หรือประมาณ 22,000 แห่ง ที่จวนเจียนจะล้มละลายเต็มที โดยมีหนี้สินรวมกันสูงถึง 1 พันล้านยูโร