เอเจนซีส์ / MGR online – ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในสหรัฐอเมริกา พบข้อมูลว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่มองรัฐบาลอเมริกันเป็นองค์กรที่ชั่วร้ายไม่น่าไว้วางใจ ขณะที่ความเชื่อถือของชาวอเมริกันต่อบรรดาผู้นำทางการเมืองของประเทศเวลานี้ อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์
ผลสำรวจล่าสุดโดยสถาบันวิจัยพีว รีเสิร์ช ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่มีการเผยแพร่ในวันจันทร์ ( 23 พ.ย.) ระบุว่า ในขณะนี้มีกลุ่มตัวอย่างที่เป็นสาธารณชนอเมริกันเพียง 19 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ระบุว่า ตนเองมีความเชื่อถือเสียเป็นส่วนใหญ่หรือมีความเชื่อถืออย่างสม่ำเสมอต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ถือเป็นระดับความเชื่อถือต่อรัฐบาลกลางเมืองลุงแซมที่ต่ำเตี้ยที่สุดในรอบ 50 ปี หรือ “ครึ่งศตวรรษ”
ผลสำรวจดังกล่าวที่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม จนถึงวันที่ 4 ตุลาคมปีนี้ ยังพบด้วยว่า มีกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันในเวลานี้เพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ที่เชื่อมั่นว่า โครงการต่างๆ ของรัฐบาลอเมริกันนั้นอยู่ภายใต้การบริหารจัดการที่ดีและมีความชอบธรรม ขณะที่กลุ่มตัวอย่างอีก 59 เปอร์เซ็นต์ หรือเกินครึ่งหนึ่งลงความเห็นว่า การบริหารงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จำเป็นต้อง “ถูกปฏิรูปแบบขนานใหญ่”
ผลสำรวจยังพบว่า กลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันจำนวน 55 เปอร์เซ็นต์ เชื่อมั่นว่า คนอเมริกันเดินดินธรรมดาทั่วๆ ไปจะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้แทนในสภาคองเกรสส์และแก้ปัญหาของประเทศชาติ ได้ดีกว่าบรรดานักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเสียอีก
ยิ่งไปกว่านั้น 72 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมการสำรวจล่าสุดนี้ ยังมองบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาอเมริกันว่าเป็นพวก “คนเห็นแก่ตัว” ไม่ต่างจากบรรดานายทุนภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ที่จ้องเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างเพียง 22 เปอร์เซ็นต์ที่เชื่อว่า พวกนักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา คือ ผู้ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา สัดส่วนของชาวอเมริกันที่มีมุมมองในเชิงบวกหรือมีความเชื่อถือต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เคยอยู่ในระดับสูงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์เลยจากการสำรวจของสถาบันจัดทำโพลล์ระดับชาติเกือบทุกแห่ง บ่งชี้ถึงระดับของความไว้วางใจและความเชื่อถือของประชาชนอเมริกันต่อรัฐบาลที่ตกต่ำแบบต่อเนื่องยาวนานที่สุด ในรอบมากกว่า 50 ปีเช่นกัน
