เอเจนซีส์ / MGR online - รายงานล่าสุดซึ่งจัดทำโดยสถาบันพีว รีเสิร์ช เซ็นเตอร์ ระบุ จำนวนชาวมุสลิมที่อาศัยในสหรัฐอเมริกาในปี 2015 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปมีจำนวนกว่า 3.3 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 1 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในสหรัฐฯ ถือเป็นสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้นจากจำนวนชาวมุสลิม 2.75 ล้านคนในเมืองลุงแซมเมื่อปี 2011
รายงานข่าวที่มีการเผยแพร่ในวันเสาร์ (9 ม.ค.) ซึ่งอ้าง บาเชียร์ โมฮาเหม็ด นักวิจัยอาวุโสของสถาบันพีว ระบุว่า จำนวนชาวมุสลิมที่อาศัยในสหรัฐอเมริกาในปี 2015 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปมีจำนวนกว่า 3.3 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 1 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในสหรัฐฯ ถือเป็นสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้นจากจำนวนชาวมุสลิม 2.75 ล้านคนในเมืองลุงแซมเมื่อปี 2011 และว่า ภายในปี 2050 สัดส่วนของประชากรมุสลิมในสหรัฐฯ ส่อเค้าอาจเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 8 ล้านคน
ผลสำรวจพบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของการเพิ่มจำนวนประชากรมุสลิมในสหรัฐอเมริกาในระหว่างปี 2010-2015 นั้นมาจากการอพยพเข้าเมือง ซึ่งชาวมุสลิมถือเป็นผู้อพยพเข้าสู่สหรัฐฯ กลุ่มใหญ่ที่สุด โดยมีสัดส่วนสูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้อพยพเข้าเมืองทั้งหมดของสหรัฐฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว และชาวมุสลิมยังเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะมีจำนวน “ทายาท” มากกว่ากลุ่มผู้นับถือศาสนาอื่นๆ ในสหรัฐฯ อีกด้วย
เมื่อนับถึงสิ้นปี 2015 การที่จำนวนชาวมุสลิมที่อาศัยในสหรัฐอเมริกามีจำนวนกว่า 3.3 ล้านคนนั้น เท่ากับว่า ในเวลานี้จำนวนประชากรมุสลิมในสหรัฐฯ มีมากกว่าชาวฮินดูในอเมริกาที่มีจำนวน 2.1 ล้านคน แต่ยังน้อยกว่าชาวยิวในเมืองลุงแซมที่มีจำนวนสูงถึง 5.7 ล้านคน
อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยของสถาบันพีวเชื่อว่า เมื่อถึงปี 2040 ชาวมุสลิมจะเพิ่มจำนวนขึ้นจนกลายเป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 2 รองจากชาวคริสต์ในสหรัฐฯ และเมื่อถึงปี 2050 คาดว่าจำนวนประชากรที่นับถือศาสนาอิสลามในสหรัฐฯ จะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเป็นมากกว่า 8.1 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 2.1 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดในสหรัฐฯ
