เอเจนซีส์ / MGR online - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่จัดทำโดยสถาบันวิจัย “พีว รีเสิร์ช” ที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐฯ พบข้อมูลว่า 52 เปอร์เซ็นต์ของชาวญี่ปุ่นในเวลานี้ มองสหรัฐฯ ว่าเป็น “ภัยคุกคาม” ไม่ต่างจากจีนและกลุ่มไอเอส ทั้งที่สหรัฐฯ ถือเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับรัฐบาลโตเกียวมายาวนาน
ผลสำรวจที่มีการเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (1 พ.ย.) ถูกระบุว่า ได้ข้อมูลมาจากการลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นชาวญี่ปุ่นรวม 2 ครั้งของทีมวิจัยจากสถาบันพีว ริเสิร์ช ในระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า 52 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,000 คนที่เข้าร่วมการสำรวจในช่วงเวลาดังกล่าว มีความเห็นว่า สหรัฐอเมริกาถือเป็นหนึ่งใน “ภัยคุกคามสำคัญ” ต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นในเวลานี้ เช่นเดียวกับภัยคุกคามจากการแผ่ขยายอิทธิพลของสาธารณรัฐประชาชนจีน และภัยคุกคามจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์ ตลอดจนภัยคุกคามจากภาวะโลกร้อน
ผลสำรวจชิ้นเดียวกันนี้ยังพบว่า 61 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างชาวญี่ปุ่นในเวลานี้มองว่าสหรัฐอเมริกากำลังประสบกับ “ความเสื่อมถอย” ในฐานะของการเป็นชาติมหาอำนาจของโลกเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี แม้ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยสถาบันพีว ริเสิร์ชในครั้งนี้จะพบว่า 52 เปอร์เซ็นต์ของชาวญี่ปุ่นมองสหรัฐอเมริกาเป็นภัยคุกคาม และอีก 61 เปอร์เซ็นต์มองว่าสหรัฐฯกำลังประสบกับภาวะเสื่อมถอยในเวทีโลก แต่ผลสำรวจกลับพบว่ากลุ่มตัวอย่างชาวญี่ปุ่นจำนวน 72 เปอร์เซ็นต์ ยังคงมีทัศนคติในเชิงบวกต่อสหรัฐฯ ในมุมมองทั่วไป ที่ไม่นับรวมประเด็นด้านการเมืองและความมั่นคง
ผลสำรวจล่าสุดยังพบข้อมูลว่า 78 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างชาวญี่ปุ่นขณะนี้ มีความเห็นว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ที่ใกล้จะหมดวาระ ถือเป็นผู้นำสหรัฐฯ ที่มีการตัดสินใจอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้วต่อสถานการณ์รอบโลกรวมถึงจุดยืนด้านนโยบายต่างประเทศนับตั้งแต่ก้าวขึ้นครองอำนาจเมื่อ 8 ปีก่อน
