รอยเตอร์ - อัชราฟ กานี ผู้นำอัฟกานิสถาน ร้องขอความสงบตามหลังผู้ประท้วงจากชนกลุ่มน้อยฮาซารา ที่อยู่ในอารมณ์โกรธกริ้ว พยายามฝ่าเข้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาบูลในวันพุธ (11 พ.ย.) เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมแก่สมาชิก 7 คนที่ถูกนักรบอิสลามิสต์ฆ่าตัดศีรษะ
การชุมนุมคราวนี้นับว่าเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยพบเห็นในกรุงคาบูลในรอบหลายปีที่ผ่านมา ด้วยมีประชาชนหลายพันคนร่วมเดินขบวนทั่วเมืองหลวง เพื่อเรียกร้องรัฐบาลดำเนินการบางอย่าง ตามหลังคดีสะเทือนขวัญคนร้ายนำศพเหยื่อที่บางส่วนอยู่ในสภาพไร้ศีรษะมาทิ้งไว้ข้างทางเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
เหตุฆาตกรรมโหดที่ทางสหประชาชาติประณามว่าอาจเป็นอาชญากรรมสงคราม กระพือความรู้สึกอ่อนไหวเกี่ยวกับความไร้เสถียรภาพนับตั้งแต่ตอลิบานบุกยึดเมืองคุนดุซ ทางภาคเหนือของประเทศ ช่วงสั้นๆ ในปลายเดือนกันยายน
ผู้ประท้วงตะโกนว่า “ไปตายซะกานี ไปตายซะตอลิบาน” ระหว่างการเดินขบวนแบกโลงศพของผู้เสียชีวิต เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตรไปยังทำเนียบประธานาธิบดี และเรียกร้องให้ประธานาธิบดีออกมารับคำร้องเรียนของพวกเขาด้วยตนเอง
ด้านนายกานีซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติที่กำลังตกอยู่ใต้แรงกดดันอย่างหนักสืบเนื่องจากความมั่นคงที่เสื่อมทรามลง ได้แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติอย่างเร่งด่วน โดยให้สัญญาว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้ แต่ก็เรียกร้องให้ผู้ประท้วงระงับอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้
“เรามีหน้าที่แก้แค้นให้แก่เลือดของเพื่อนร่วมชาติ เราจะไม่ละความพยายาม” เขากล่าว พร้อมกล่าวหาพวกนักรบกระพือความเครียดทางท้องถิ่นและเชื้อชาติ แต่ระบุต่อว่า “เราต้องหลีกเลี่ยงการตอบโต้ที่อาจจบลงด้วยภาวะบ้านเมืองไร้ขื่อแป”
รายงานข่าวระบุว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผู้ประท้วงพยายามปีนกำแพงของอาคารที่อยู่ติดกับทำเนียบประธานาธิบดี ทำให้ตำรวจต้องยิงเตือนเพื่อสลายฝูงชน ขณะที่ทางโฆษกกระทรวงสาธารณสุขเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บระหว่างการชุมนุม 7 ราย ในนั้น 5 รายเป็นบาดแผลจากกระสุนปืน
นอกเหนือจากเหตุฆ่ากันรายวันแล้ว การเสียชีวิตของชาวฮาซารา 7 คน ในนั้นเป็นผู้หญิง 3 คนและเด็ก 2 คน ได้ก่อความตึงเครียดขั้นสูงแก่ความเสี่ยงที่จะกระพือความเกลียดชังทางนิกายเพิ่มเติมในประเทศแห่งนี้ที่ประกอบด้วยชนเชื้อสายต่างๆ
ในส่วนของชาวฮาซารานั้นพูดภาษาเปอร์เซีย ส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยชีอะห์ที่ถูกตามประหัตประหารมายาวนานในอัฟกานิสถาน เคยถูกตอลิบานและอัลกออิดะห์สังหารหมู่หลายพันคนในช่วงทศวรรษ 1990 แต่เหตุสังหารและลักพาตัวหลายครั้งในปีนี้ ได้กระพืออารมณ์ความรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาอีกครั้ง