เอเอฟพี - รัฐบาลเยเมน ระบุในวันนี้ (23) ว่า กลุ่มกบฏนิกายชีอะห์จะต้องถอนกำลังออกจากดินแดนทั้งหมดที่พวกเขายึดครองนับตั้งแต่ปี 2014 และคืนอำนาจการควบคุมหน่วยงานรัฐก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงทางการเมืองใด ๆ ก็ตาม
ถ้อยแถลงจากคณะผู้แทนรัฐบาลเพื่อการเจรจาสันติภาพในคูเวตนี้ เป็นตอบสนองครั้งใหม่ต่อข้อเสนอของคณะผู้ไกล่เกลี่ยของสหประชาชาติในความพยายามที่จะผสานความไม่ลงรอยระหว่างคู่ขัดแย้งทั้งสอง
เมื่อวันพุธ (22) คณะผู้แทนฝ่ายกบฏ ระบุว่า พวกเขาจะไม่เซ็นข้อตกลงว่าด้วยประเด็นทางทหารและความมั่นคงใด ๆ จนกว่าการตกลงกันเรื่องประธานาธิบดีจากมติมหาชนและรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติที่จะควบคุมการเปลี่ยนผ่าน
โรดแมปสันติภาพที่ผลักดันโดนผู้แทนยูเอ็น อิสมาอิล โอลด์ ชีคห์ อาหมัด เสนอมีการจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์พร้อมกับการถอนกำลังและการปลดอาวุธของฝ่ายกบฏ แม้ว่าเขายอมรับว่าทั้งสองฝ่ายมีความเห็นต่างกันมาเรื่องลำดับเหตุการณ์ก็ตาม
คณะผู้แทนของรัฐบาล ระบุว่า “ไม่ยอมรับทุกข้อเสนอ” ในการเจรจานานสองเดือนที่คูเวต
“ไม่อาจมีการเจรจาเรื่องข้อตกลงทางการเมืองใด ๆ ได้จนกว่าฝ่าบกบฏจะถอนกำลังและวางอาวุธโดยสมบูรณ์ และคืนอำนาจการควบคุมหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ให้แก้รัฐบาลที่ชอบธรรม” คณะผู้แทนฝ่ายรัฐบาลระบุ
“ความเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองใด ๆ ก็ตามในอนาคตจะต้องเป็นระหว่างพรรคและกลุ่มทางการเมืองที่ไม่มีกองกำลัง”
ถึงแม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะนำการแทรกแซงทางทหารเพื่อสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดี อาเบดรับบู มันซูร์ ฮาดี มานานถึง 15 เดือนแล้ว แต่ฝ่ายกบฏและเหล่าพันธมิตรยังคงควบคุมพื้นที่กว้างใหญ่ที่พวกเขายึดได้มาตั้งแต่ปี 2014 อยู่รวมถึงเมืองหลวงซานา
มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 6,400 คน นับตั้งแต่ที่การแทรกแซงดังกล่าวเริ่มต้นขึ้น ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และมีแรงกดดันจากนานาชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ ให้ยุติความขัดแย้งนี้
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การเจรจาในคูเวตยืดเยื้อออกไป ก็มีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่มียูเอ็นเป็นคนกลางมากขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ที่มันมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 11 เมษายน