ว่าที่นายกฯใหม่อิรัก “ไฮดาร์ อัล-อาบาดี” ได้รับความสนับสนุนกว้างขวางมากขึ้นเรื่อยๆ ในวันอังคาร (12 ส.ค.) รมว.เคร์รีของสหรัฐฯเร่งรัดให้เขารีบจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ พร้อมยืนยันวอชิงตันสนับสนุนเต็มที่ โดยเฉพาะในการขับเคี่ยวกับกลุ่มนักรบญิฮัด “ไอเอส” ขณะที่เหล่าชาติอาหรับก็ออกโรงหนุนเช่นกัน กระทั่งอิหร่านซึ่งเป็นพันธมิตรสนิทของ “นูรี อัล-มาลิกี” ยังเปลี่ยนท่าทีอย่างชัดเจน ทำให้มาลิกีผู้หวังจะปกครองประเทศต่อเป็นสมัยที่ 3 ยิ่งตกอยู่ในสภาพโดดเดี่ยว
อาบาดี ผู้ถูกมองว่าเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอัล-มาลิกี กลายสภาพเป็นคนที่ก้าวออกมาจากข้างหลังแล้วคว้าเก้าอี้หัวหน้าฝ่ายบริหารของอิรักคนใหม่ไปครอบครอง ภายหลังจากที่มีการต่อสู้ช่วงชิงตำแหน่งนี้กันอย่างดุเดือดยืดเยื้อมาหลายเดือน เมื่อประธานาธิบดีฟูอัด มาซูม กล่าวในวันจันทร์ (11) ว่า ยอมรับการที่รัฐสภาเสนอชื่อ อาบาดี เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับมอบหมายให้บุคคลผู้นี้ไปจัดตั้งรัฐบาล
เขาจะมีเวลา 30 วันในการใช้ความพยายามเพื่อจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ของประเทศขึ้นมาให้ได้ เพื่อเป็นความหวังในการเยียวยาอิรักจากความแตกแยกระส่ำระสาย และสร้างความเป็นปึกแผ่นเพื่อต่อสู้กับนักรบญิฮัดกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่รุกเข้ายึดครองพื้นที่กว้างขวางทางเหนือและตะวันตกของประเทศ
ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต่อโทรศัพท์แสดงความยินดีกับอาบาดีตั้งแต่เมื่อวันจันทร์
จากนั้น จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็สำทับด้วยการแถลงเรียกร้องระหว่างเยือนออสเตรเลียเมื่อวันอังคาร (12) ให้อาบาดีเร่งจัดตั้งรัฐบาลที่มีตัวแทนจากทุกๆ ฝ่าย และเสริมว่า อเมริกาพร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลใหม่ของอิรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส อย่างไรก็ดี เคร์รีสำทับว่า อเมริกาไม่มีแผนส่งกำลังกลับสู่อิรัก
รัฐมนตรีต่างประเทศแดนอินทรียังกล่าวอีกว่า กองกำลังอิรักต้องไม่เป็นกองกำลังของผู้นำคนหนึ่งคนใดหรือนิกายศาสนาหนึ่งใดโดยเฉพาะ แต่ต้องเป็นตัวแทนของชาวอิรักทั้งหมด
ท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ ตอกย้ำว่า วอชิงตันต้องการให้มาลิกีวางมือเพื่อให้อิรักก้าวสู่ยุคใหม่ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เห็นด้วย
มาลิกีที่รายล้อมด้วยผู้สวามิภักดิ์จากนิกายชีอะห์ราว 30 คน ออกคำแถลงทางทีวีประณามการเสนอชื่ออาบาดีว่า ละเมิดรัฐธรรมนูญ พร้อมกล่าวหาวอชิงตันพยายามบ่อนทำลายตน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มาลิกีพยายามขัดขืนซึ่งอาจทำให้กระบวนการผ่องถ่ายอำนาจซับซ้อนยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งกองกำลังหน่วยรบพิเศษและยานยนต์หุ้มเกราะซึ่งจงรักภักดีต่อตนเอง ไปประจำตามพื้นที่ยุทธศาสตร์ทั่วแบกแดดตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (10) แต่ในขณะนี้เขาตกอยู่สภาพถูกโดดเดี่ยวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
สหประชาชาติ (ยูเอ็น) และอเมริกาประสานเสียงเรียกร้องให้กองกำลังความมั่นคงของอิรักและมาลิกีอย่า “กวนน้ำให้ขุ่น”
ในวันอังคาร เลขาธิการสันติบาตอาหรับ เนบิล อัล-อาราบี ออกคำแถลงแสดงการต้อนรับที่ประธานาธิบดีมาซูม มอบหมายให้อาบาดีเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลอิรักชุดใหม่ เช่นเดียวกับ รัฐมนตรีต่างประเทศ ซาอุด อัล-ไฟซาล ของซาอุดีอาระเบีย ที่บอกว่า การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ถือว่าเป็น “ข่าวดี”
กระทั่ง อาลี ชัมคานี เลขานุการและผู้แทนของ อยาโตเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ก็ยังประกาศในกรุงเตหะรานวันอังคาร แสดงความยินดีอย่างเป็นทางการต่ออาบาดี ทั้งนี้ที่ผ่านมาอิหร่านซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวชิอะห์เช่นเดียวกับอิรัก คือพันธมิตรใกล้ชิดของมาลิกี
อาบาดี ผู้ถูกมองว่าเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอัล-มาลิกี กลายสภาพเป็นคนที่ก้าวออกมาจากข้างหลังแล้วคว้าเก้าอี้หัวหน้าฝ่ายบริหารของอิรักคนใหม่ไปครอบครอง ภายหลังจากที่มีการต่อสู้ช่วงชิงตำแหน่งนี้กันอย่างดุเดือดยืดเยื้อมาหลายเดือน เมื่อประธานาธิบดีฟูอัด มาซูม กล่าวในวันจันทร์ (11) ว่า ยอมรับการที่รัฐสภาเสนอชื่อ อาบาดี เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับมอบหมายให้บุคคลผู้นี้ไปจัดตั้งรัฐบาล
เขาจะมีเวลา 30 วันในการใช้ความพยายามเพื่อจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ของประเทศขึ้นมาให้ได้ เพื่อเป็นความหวังในการเยียวยาอิรักจากความแตกแยกระส่ำระสาย และสร้างความเป็นปึกแผ่นเพื่อต่อสู้กับนักรบญิฮัดกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่รุกเข้ายึดครองพื้นที่กว้างขวางทางเหนือและตะวันตกของประเทศ
ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต่อโทรศัพท์แสดงความยินดีกับอาบาดีตั้งแต่เมื่อวันจันทร์
จากนั้น จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็สำทับด้วยการแถลงเรียกร้องระหว่างเยือนออสเตรเลียเมื่อวันอังคาร (12) ให้อาบาดีเร่งจัดตั้งรัฐบาลที่มีตัวแทนจากทุกๆ ฝ่าย และเสริมว่า อเมริกาพร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลใหม่ของอิรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส อย่างไรก็ดี เคร์รีสำทับว่า อเมริกาไม่มีแผนส่งกำลังกลับสู่อิรัก
รัฐมนตรีต่างประเทศแดนอินทรียังกล่าวอีกว่า กองกำลังอิรักต้องไม่เป็นกองกำลังของผู้นำคนหนึ่งคนใดหรือนิกายศาสนาหนึ่งใดโดยเฉพาะ แต่ต้องเป็นตัวแทนของชาวอิรักทั้งหมด
ท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ ตอกย้ำว่า วอชิงตันต้องการให้มาลิกีวางมือเพื่อให้อิรักก้าวสู่ยุคใหม่ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เห็นด้วย
มาลิกีที่รายล้อมด้วยผู้สวามิภักดิ์จากนิกายชีอะห์ราว 30 คน ออกคำแถลงทางทีวีประณามการเสนอชื่ออาบาดีว่า ละเมิดรัฐธรรมนูญ พร้อมกล่าวหาวอชิงตันพยายามบ่อนทำลายตน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มาลิกีพยายามขัดขืนซึ่งอาจทำให้กระบวนการผ่องถ่ายอำนาจซับซ้อนยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งกองกำลังหน่วยรบพิเศษและยานยนต์หุ้มเกราะซึ่งจงรักภักดีต่อตนเอง ไปประจำตามพื้นที่ยุทธศาสตร์ทั่วแบกแดดตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (10) แต่ในขณะนี้เขาตกอยู่สภาพถูกโดดเดี่ยวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
สหประชาชาติ (ยูเอ็น) และอเมริกาประสานเสียงเรียกร้องให้กองกำลังความมั่นคงของอิรักและมาลิกีอย่า “กวนน้ำให้ขุ่น”
ในวันอังคาร เลขาธิการสันติบาตอาหรับ เนบิล อัล-อาราบี ออกคำแถลงแสดงการต้อนรับที่ประธานาธิบดีมาซูม มอบหมายให้อาบาดีเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลอิรักชุดใหม่ เช่นเดียวกับ รัฐมนตรีต่างประเทศ ซาอุด อัล-ไฟซาล ของซาอุดีอาระเบีย ที่บอกว่า การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ถือว่าเป็น “ข่าวดี”
กระทั่ง อาลี ชัมคานี เลขานุการและผู้แทนของ อยาโตเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ก็ยังประกาศในกรุงเตหะรานวันอังคาร แสดงความยินดีอย่างเป็นทางการต่ออาบาดี ทั้งนี้ที่ผ่านมาอิหร่านซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวชิอะห์เช่นเดียวกับอิรัก คือพันธมิตรใกล้ชิดของมาลิกี
