เอเอฟพี - หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานวานนี้ (25 มิ.ย.) ว่าอิหร่านได้ลอบส่งอากาศยานตรวจการณ์แบบไร้นักบิน (โดรน) และยุทโธปกรณ์ไปยังอิรัก เพื่อช่วยแบกแดดต่อสู้กับกบฏมุสลิมสุหนี่
หนังสือพิมพ์เจ้านี้รายงาน โดยอ้างคำพูดเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้ไม่เปิดเผยนามว่า อิหร่านได้ส่งโดรน “อบาบิล” ฝูงย่อมไปประจำการ ณ ฐานทัพอากาศอัลราชิด ใกล้กรุงแบกแดด
นอกจากนี้ เตหะรานยังได้ส่งหน่วยข่าวกรองไปที่ฐานทัพอากาศแห่งนี้ เพื่อดักฟังการสื่อสารทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างบรรดานักรบญิฮัด กับผู้บังคับบัญชากลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ “รัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์” (ISIL)
โดรน “อบาบิล” ซึ่งมีเทคโนโลยีซับซ้อนน้อยกว่าอากาศยานไร้คนขับของสหรัฐฯ นั้นผลิตขึ้นในอิหร่าน และมีระยะระหว่างปลายปีก 2 ข้างเกือบ 3 เมตร โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อภารกิจตรวจการณ์และไม่ได้ติดอาวุธ
หนังสือพิมพ์เจ้านี้ระบุด้วยว่า อิหร่านได้ส่งเจ้าหน้าที่กำลังรบกึ่งทหารจากกองกำลัง “กุดส์” ของอิหร่านไปให้คำแนะนำเหล่าผู้บังคับบัญชาของอิรัก และเพื่อช่วยเรียกระดมพลกลุ่มติดอาวุธมุสลิมชีอะห์เคลื่อนพลทางตอนใต้ของประเทศ พร้อมทั้งระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.กัสเซ็ม สุลัยมาน ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ ได้เดินทางเยือนอิรักมาแล้ว 2 ครั้ง
อิหร่านได้จัดส่งยุทโธปกรณ์และเสบียงไปยังกรุงแบกแดดวันละ 2 เที่ยว โดยเที่ยวบินหนึ่งบรรทุกน้ำหนัก 70 ตัน
เจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ว่า อิหร่านยังได้จัดส่งอุปกรณ์ “ไปเป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะไม่ใช่อาวุธสงคราม แต่ก็ไม่ได้มีแค่อาวุธเบาและเครื่องกระสุน”
นิวยอร์กไทม์สรายงานต่อไปว่า เตหะรานได้ส่งกำลังทหาร 10 หน่วย และกองกำลังกุดส์ไปประจำการตามแนวพรมแดน และเตรียมพร้อมต่อสู้ หากเมืองหลวงอิรัก และสักการสถานของชาวมุสลิมชีอะห์เผชิญภัยคุกคาม
เมื่อถาม มารี ฮาร์ฟ โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ถึงเรื่องนี้ในงานแถลงข่าว เธอกล่าวว่า “ดิฉันยังไม่สามารถยืนยันว่า รายละเอียดในรายงานข่าวนี้เป็นความจริง”
อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า “ประเทศใดก็ตามภูมิภาคตะวันออกกลางยังไม่ควรผลีผลามทำอะไร ที่อาจทำให้สถานการณ์ความแตกแยกระหว่าง 2 นิกายเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม และอาจเป็นการเติมเชื้อไฟให้เกิดเหตุรุนแรงในอิรัก”
สองสัปดาห์มาแล้ว ที่สหรัฐฯ เน้นย้ำว่า ในช่วงที่กำลังเกิดวิกฤตในอิรัก อิหร่านควรจัดส่งความช่วยเหลือใในลักษณะที่ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติกับคนต่างนิกาย เป็นต้นว่า อาจใช้วิธีกดดันให้รัฐบาลอิรักจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติขึ้นมา และไม่เติมเชื้อไฟให้ความขัดแย้งระหว่างชาวมุสลิมนิกายสุหนี่และชีอะห์
ฮาร์ฟกล่าวว่า เรา “เชื่อว่าอิหร่านสามารถแสดงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการช่วยส่งสัญญาณเดียวกันนี้ไปยังรัฐบาลอิรัก อย่างที่เรากำลังพยายามทำอยู่”
ในเดือนนี้ การก่อเหตุโจมตีสายฟ้าแลบของกบฏมุสลิมสุหนี่ภายใต้การนำของกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ (ISIL) ได้แผ่ขยายลุกลามไปยังพื้นที่หลายแห่งทางเหนือและตะวันตกของกรุงแบกแดด และยังทำให้ประเทศนี้สุ่มเสียงถูกแบ่งแยกดินแดน
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า มีประชาชนถูกสังหารไปแล้วอย่างน้อย 1,075 คน โดย 3 ใน 4 ของจำนวนดังกล่าวเป็นพลเรือน และในช่วงวันที่ 5 และ 22 มิถุนายน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 658 คนในอิรัก และมีประชาชนหลายแสนคนต้องพลัดถิ่นเพื่อหนีภัยสู้รบ
