xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ประกาศช่วย “ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย” เพิ่มอีก 100 ล้านเหรียญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศในวันเสาร์ (31 ต.ค.) ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย คิดเป็นวงเงินเกือบ 100 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดรวมของความช่วยเหลือที่รัฐบาลวอชิงตันจัดส่งให้กับฝ่ายต่อต้านระบอบอัสซาด นับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 500 ล้านดอลลาร์

การให้ความช่วยเหลือครั้งใหม่ของสหรัฐฯ แก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียในครั้งนี้ได้รับการยืนยันโดยแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ ผ่านเวทีการประชุมด้านความมั่นคงส่วนภูมิภาคภายใต้ชื่อ “มานามา ไดอะล็อก” ที่จัดขึ้น ณ ประเทศบาห์เรน

อย่างไรก็ดี คำแถลงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างว่าความช่วยเหลือของสหรัฐฯในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายพุ่งเป้าไปที่ “พลเรือนซีเรีย” เป็นหลัก ทั้งการช่วยเหลือให้โรงเรียนในซีเรียสามารถเปิดการเรียนการสอนสำหรับเด็กๆ ต่อไปได้ รวมถึงการฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปา ตลอดจน การสนับสนุนกิจการของสื่ออิสระและภาคประชาสังคม รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่เป็นพวก “สายกลาง” ให้มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดอนาคตของประเทศซีเรีย บนพื้นฐานของการเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกฏหมาย

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ มีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่ในวันศุกร์ (30 ต.ค.) ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ อนุมัติคำสั่งประจำการกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯในซีเรียเป็นครั้งแรก ถือเป็นการผ่อนปรนจุดยืนที่โอบามาเคยปฏิเสธมานาน ต่อการส่งกองกำลังทางภาคพื้นดินเข้าไปยังซีเรีย ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่ยังคงเดินหน้าเปิดการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียกลุ่มอื่นๆ อย่างหนักหน่วง ไม่น้อยกว่า 1,600 เป้าหมาย นับตั้งแต่ที่รัฐบาลมอสโกภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ตัดสินใจกระโจนเข้าร่วมสงครามนี้เมื่อ 1 เดือนก่อน หรือตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา

รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโอบามาซึ่งถือเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสหรัฐฯโดยตำแหน่ง ได้อนุมัติในเบื้องต้นให้ส่งกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ ที่มีจำนวนมากกว่า 50 นายเล็กน้อย เข้าประจำการในพื้นที่ทางภาคเหนือของซีเรีย และความเคลื่อนไหวนี้ถูกระบุว่าเป็นการเพิ่มความพยายามของวอชิงตันในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส ที่คาดว่าจะดำเนินการควบคู่กันไปทั้งการส่งกองกำลังภาคพื้นดิน ร่วมด้วยการเปิดการโจมตีของเครื่องบินรบแบบ A-10 และเครื่องบินขับไล่ F-15 ที่ใช้ฐานทัพอากาศทางภาคใต้ของตุรกีเป็นฐานปฏิบัติการ