ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการเป็นครั้งแรกในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าคาดการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,050.75 จุด พุ่งขึ้น 138.46 จุด หรือ +0.82% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,810.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.64 จุด หรือ +0.41% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,013.43 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.88%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 ก.ย. โดยระบุว่า กรรมการหลายคนของเฟดมีความเห็นว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจจะกดดันให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลง นอกจากนี้ เฟดยังต้องการดูแนวโน้มเงินเฟ้อ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนมองว่า รายงานการประชุมของเฟดในครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เริ่มมีน้อยลง พร้อมกับคาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกน้อยกว่าจนถึงช่วงต้นปีหน้า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 263,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 273,000 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นเวลามากกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 267,500 ราย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานรายสัปดาห์ที่ยังคงแข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 1,144.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 263,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 273,000 ราย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า การลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย โดยพุ่งเป้าทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 49.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น โดยในระหว่างวันสัญญาทะยานขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากตลาดมีมุมมองว่า การลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการโจมตีทางทหารของรัสเซียในซีเรีย
สำหรับรายงานล่าสุดระบุว่า เรือรบของรัสเซียในทะเลแคสเปียนได้ยิงขีปนาวุธถล่มโรงงาน คลังอาวุธ ศูนย์บัญชาการ และค่ายฝึกทหารของกลุ่ม IS
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า กองทัพอากาศสามารถโจมตีเป้าหมาย 27 แห่งของกลุ่ม IS ในจังหวัดฮอมส์ ฮามา และรัคคา ขณะเดียวกัน กองกำลังภาคพื้นดินของซีเรียได้โจมตีเป้าหมายของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทางตะวันตกของประเทศ โดยมีเครื่องบินของรัสเซียให้การสนับสนุนด้วยการยิงขีปนาวุธถล่ม
ที่ผ่านมานั้น รัสเซียอ้างว่ากำลังทำการโจมตีเป้าหมายของกลุ่ม IS แต่การโจมตีในทางตะวันตกของซีเรีย กลับไม่ใช่เป็นที่ตั้งของกลุ่ม IS แต่อย่างใด แต่เป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มกบฎที่ต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ รวมทั้งรายงานคาดการณ์ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ระบุว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2558 ซึ่งสูงกว่าที่โอเปกคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
เบเกอร์ ฮิวจส์ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลด้านน้ำมันระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐลดลงอีก 4 แห่ง เหลือ 640 แห่ง ในช่วงเวลาที่สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 25 ก.ย. ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนก.ค. หลังจากที่ลดลงไปกว่า 31 แห่งเมื่อสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,050.75 จุด พุ่งขึ้น 138.46 จุด หรือ +0.82% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,810.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.64 จุด หรือ +0.41% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,013.43 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.88%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 ก.ย. โดยระบุว่า กรรมการหลายคนของเฟดมีความเห็นว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจจะกดดันให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลง นอกจากนี้ เฟดยังต้องการดูแนวโน้มเงินเฟ้อ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนมองว่า รายงานการประชุมของเฟดในครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เริ่มมีน้อยลง พร้อมกับคาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกน้อยกว่าจนถึงช่วงต้นปีหน้า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 263,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 273,000 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นเวลามากกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 267,500 ราย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานรายสัปดาห์ที่ยังคงแข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 1,144.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 263,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 273,000 ราย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า การลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย โดยพุ่งเป้าทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 49.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น โดยในระหว่างวันสัญญาทะยานขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากตลาดมีมุมมองว่า การลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการโจมตีทางทหารของรัสเซียในซีเรีย
สำหรับรายงานล่าสุดระบุว่า เรือรบของรัสเซียในทะเลแคสเปียนได้ยิงขีปนาวุธถล่มโรงงาน คลังอาวุธ ศูนย์บัญชาการ และค่ายฝึกทหารของกลุ่ม IS
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า กองทัพอากาศสามารถโจมตีเป้าหมาย 27 แห่งของกลุ่ม IS ในจังหวัดฮอมส์ ฮามา และรัคคา ขณะเดียวกัน กองกำลังภาคพื้นดินของซีเรียได้โจมตีเป้าหมายของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทางตะวันตกของประเทศ โดยมีเครื่องบินของรัสเซียให้การสนับสนุนด้วยการยิงขีปนาวุธถล่ม
ที่ผ่านมานั้น รัสเซียอ้างว่ากำลังทำการโจมตีเป้าหมายของกลุ่ม IS แต่การโจมตีในทางตะวันตกของซีเรีย กลับไม่ใช่เป็นที่ตั้งของกลุ่ม IS แต่อย่างใด แต่เป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มกบฎที่ต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ รวมทั้งรายงานคาดการณ์ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ระบุว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2558 ซึ่งสูงกว่าที่โอเปกคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
เบเกอร์ ฮิวจส์ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลด้านน้ำมันระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐลดลงอีก 4 แห่ง เหลือ 640 แห่ง ในช่วงเวลาที่สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 25 ก.ย. ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนก.ค. หลังจากที่ลดลงไปกว่า 31 แห่งเมื่อสามสัปดาห์ที่ผ่านมา