ทัพซีเรียประกาศรุกใหญ่ชิงพื้นที่คืน หลังรัสเซียให้ความสนับสนุนเต็มที่

เอเจนซีส์ - กองทัพซีเรียประกาศในวันพฤหัสบดี (8 ต.ค.) เปิด “การรุกโจมตีครั้งใหญ่” เพื่อชิงพื้นที่คืนจากกลุ่มต่อต้านติดอาวุธ ภายใต้การสนับสนุนเต็มกำลังของรัสเซีย ขณะที่องค์การนาโตก็ยกระดับการเตรียมพร้อม อ้างหวั่นการแทรกแซงจากมอสโกส่งผลให้สถานการณ์ในซีเรียเลวร้ายลง อีกทั้งคำรามลั่นพร้อมส่งทหารไปปกป้องตุรกี ที่ถูกเครื่องบินรบแดนหมีขาวรุกล้ำน่านฟ้าหลายครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ตลอด 9 วันที่ผ่านมา มอสโกยกระดับการถล่มโจมตีกลุ่มกบฏต่าง ๆ ซึ่งต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ด้วยการส่งเครื่องบินออกทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง และในวันพุธ (7) ยังเป็นครั้งแรกที่มอสโกยิง “จรวดร่อน” จากเรือรบในทะเลแคสเปียน ข้ามดินแดนของอิหร่านและอิรัก ไปสู่เป้าหมายในซีเรียซึ่งอยู่ห่างออกไป 1,500 กิโลเมตร รวมทั้งยังให้การสนับสนุนทางอากาศโดยตรงเพื่อแก่กองกำลังสู้รบภาคพื้นดินของซีเรีย กระทั่งสามารถชิงเมืองลัตมีน และภูเขารอบ ๆ เพื่อตัดเส้นทางของพวกไอเอสในจังหวัดอิดลิบที่อยู่ติดกัน

นายทหารระดับนายพลคนหนึ่งของซีเรีย กล่าวว่า การเข้าแทรกแซงของรัสเซีย ทำให้นักรบของกลุ่มก่อการร้าย “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) และกลุ่มกบฏอื่น ๆ ที่ต่อต้านอัสซาด อ่อนกำลังลงอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ เครื่องบินรบรัสเซียให้การปกป้องกองกำลังภาคพื้นดินของรัฐบาลซีเรีย ที่ก่อนหน้านี้เสียพื้นที่กว้างขวางให้ไอเอสและนักรบกลุ่มอื่น ๆ ที่ต่างต้องการโค่นล้มอัสซาด

ในวันพฤหัสบดี (8) พลเอก อาลี อับดุลเลาะห์ อายูบ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของกองทัพซีเรีย ประกาศว่า จะทำการโจมตีครั้งใหญ่เพื่อกำจัดกลุ่มก่อการร้ายและยึดคืนพื้นที่ที่สูญเสียไปก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้ระบุว่า จะเปิดการโจมตีที่ใด เพียงแต่บอกว่า การโจมตีทางอากาศของรัสเซียทำให้ไอเอสและกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ กระปลกกระเปลี้ยลงอย่างชัดเจน

วันเดียวกัน รัสเซียได้เปิดฉากถล่มครั้งใหม่ที่จังหวัดลาตาเกีย ซึ่งเป็นดินแดนชายฝั่งทางด้านตะวันตกของซีเรีย และที่จังหวัดฮามา ทางตอนกลางของประเทศ ซึ่งใกล้กับจังหวัดอิดลิป ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการภาคพื้นดินของกองทัพซีเรียและกลุ่มนักรบพันธมิตร ในการชิงที่ราบซาล อัล-กาบในฮามา กลับคืน

นับจากวันที่ 30 กันยายน กองทัพอากาศรัสเซียระดมโจมตีเป้าหมายจำนวนมากทั่วทั้งซีเรีย ซึ่งพวกเขาระบุว่าเป็นพื้นที่ไอเอสและกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ ทว่า นักรบอิสลามิสต์ กลุ่มกบฏ และผู้สนับสนุนนานาชาติอ้างว่า เป้าหมายที่แดนหมีขาวโจมตีส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่พื้นที่ของไอเอส หรือของกลุ่มอัล-กออิดะห์

จอห์น เคอร์บี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า กว่า 90% ของการโจมตีของรัสเซียพุ่งเป้าไปที่กลุ่มต่อต้านสายกลางที่ต้องการโค่นล้มอัสซาด

ที่กรุงบรัสเซลส์วันพฤหัสบดี เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการใหญ่นาโต กล่าวระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีกลาโหมของเหล่าชาติสมาชิก ว่า ปฏิบัติการทางอากาศของรัสเซียทำให้สถานการณ์ลุกลาม และนาโตกำลังประเมินสถานการณ์ล่าสุด รวมถึงนัยต่อความมั่นคงของชาติพันธมิตร โดยเฉพาะการละเมิดน่านฟ้าตุรกีของเครื่องบินรบรัสเซียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

สโตลเทนเบิร์ก เสริมว่า หากจำเป็นองค์การของเขาก็พร้อมส่งกองกำลังไปประจำการในตุรกี ซึ่งเป็นชาติสมาชิกรายหนึ่งของนาโต

ก่อนหน้านี้ นาโตได้นำระบบต่อต้านขีปนาวุธ “แพทริออต” ไปติดตั้งในตุรกีแล้ว เพื่อป้องกันสถานการณ์ลุกลามจากซีเรีย ทว่า มีกำหนดจะมีการถอนระบบดังกล่าวปลายปีนี้

ต่อข้อถามว่า นาโตกำลังพิจารณาขยายปฏิบัติการในกรณีที่รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือไม่ สโตลเทนเบิร์ก ตอบว่า นาโตสามารถและพร้อมปกป้องสมาชิกทุกชาติ ซึ่งรวมถึงตุรกี

ถึงแม้อเมริกาแสดงท่าที ไม่ต้องการร่วมมือทางการทหารกับรัสเซียในซีเรีย ทว่า การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมนาโตครั้งนี้จะมีการหารือถึงวิธีการในการโน้มน้าวให้มอสโกเข้าร่วมในการแก้ไขวิกฤต โดยหลายชาติสมาชิกมองแง่ดีว่า รัสเซียต้องการหลีกเลี่ยงการถูกดึงเข้าสู่วิกฤตยืดเยื้อเช่นเดียวกัน และทางแก้ไขปัญหาที่นาโตมองไว้ ก็คือ การเปลี่ยนถ่ายทางการเมืองในซีเรีย