xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯจีนระบุ เป้าหมายศก.เติบโต7% ไม่ใช่ว่าจะต้องยอมตายทำให้สำเร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<i>คนงานจีนกำลังทำงานอยู่ในสถานที่ก่อสร้างแห่งหนึ่งที่ใจกลางกรุงปักกิ่ง เมื่อกลางเดือนตุลาคมนี้  นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีนระบุว่า มีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ 7% ในปีนี้ แต่ไม่ใช่หมายความว่าจะต้องทำให้สำเร็จตามเป้าหมายนี้ให้ได้ </i>
รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการรายวัน – จีนไม่เคยพูดเลยว่าเศรษฐกิจของตนจะต้องเติบโตขยายตัวด้วยอัตรา 7% ในปีนี้ให้ได้ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งรัฐบาลจีนนำออกมาเผยแพร่ในช่วงดึกวันเสาร์ (24 ต.ค.) พร้อมกับเสริมว่า หลี่ยังแสดงความเชื่อมั่นในความสามารถของประเทศที่จะเอาชนะความยากลำบากทางเศรษฐกิจซึ่งกำลังประสบอยู่

เศรษฐกิจของจีนในรอบไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.) ปีนี้ เติบโตด้วยอัตรา 6.9% เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ตามข้อมูลซึ่งเผยแพร่ออกมาในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นการขยายตัวที่ต่ำกว่าระดับ 7% ครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตภาคการเงินในช่วงปี 2008-09 ซึ่งในเมืองไทยมีบางคนเรียกขานว่าเป็น “วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์”

ระหว่างไปแสดงปาฐกถาที่โรงเรียนพรรคส่วนกลาง ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกอบรมพวกเจ้าหน้าที่ดาวรุ่งทั้งหลาย หลี่กล่าวว่าการที่จีนจะประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจตามที่ตั้งเป้าหมายไว้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ และความยากลำบากต่างๆ ที่รออยู่เบื้องหน้าก็ไม่ควรที่จะดูเบา

ก่อนหน้านี้ ในการประชุมประจำปีของรัฐสภาในปีนี้ หลี่เสนอรายงานกิจการรัฐบาลซึ่งบอกว่า รัฐบาลตั้งเป้าจะให้จีดีพีปีนี้เติบโตขยายตัวในอัตราประมาณ 7%

“เราไม่เคยพูดเลยว่า เราควรต้องพิทักษ์ปกป้องจนตัวตาย เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายใดๆ ที่ตั้งเอาไว้ แต่บอกว่าเศรษฐกิจควรจะไปได้ภายในแถบช่วงที่สมเหตุสมผล” รัฐบาลส่วนกลางของจีนได้ย่อคำกล่าวของ หลี่ มาระบุเอาไว้ในคำแถลงฉบับหนึ่งซึ่งเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของตน
<i>นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง </i>
อัตราเติบโตของจีนอยู่ในภาวะที่ไม่ได้เลวร้ายอะไรในช่วงปีที่แล้ว เมื่อพิจารณาถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของโลก หลี่กล่าว

“มีเหตุผลหลายๆ ประการที่ควรทำให้เรามองการณ์แง่ดีต่อไปอีก เป็นต้นว่า การจ้างงานที่กำลังเพิ่มขึ้น, การใช้จ่ายที่มากขึ้นในด้านการท่องเที่ยว, และภาคบริการซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว” นายกรัฐมนตรีจีนชี้

“ประชาชนผู้ทำงานหนักตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และศักยภาพอันมโหฬารของเศรษฐกิจจีน ทำให้เรามีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่า เราสามารถที่จะเอาชนะความยากลำบากนานาประการได้” เขากล่าวเพิ่มเติม

ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (PBOC) ซึ่งเป็นแบงก์ชาติของแดนมังกร ประกาศตัดลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกเมื่อวันศุกร์ (23) ที่ผ่านมา นับเป็นการปรับลดครั้งที่ 6 ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ปี นอกจากนั้น ยังประกาศลดปริมาณเงินสดที่กำหนดให้พวกแบงก์พาณิชย์ต้องถือเป็นทุนสำรองลงมาอีกครั้งด้วย ในความพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจแดนมังกรซึ่งกำลังสะดุดติดขัด ให้กลับเดินเครื่องได้อย่างคล่องตัวอีกคำรบหนึ่ง

SCB EIC เตือนความเสี่ยงเงินทุนเคลื่อนย้ายอาจจุดชนวนวิกฤต ศก.โลกรอบใหม่
SCB EIC เตือนความเสี่ยงเงินทุนเคลื่อนย้ายอาจจุดชนวนวิกฤต ศก.โลกรอบใหม่
SCB EIC คาด GDP ไทยปี 58 ขยายตัวได้ 2.0-2.5% และในปี 59 จะขยายตัวได้ 2.5-3.0% ซึ่งมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการดำเนินนโยบายของภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยว สำหรับปัจจัยเสี่ยงในเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้านยังเป็นสิ่งที่ยังต้องเฝ้าระวังในระยะต่อไป ชี้ผลกระทบเฟดขึ้น ดบ.ในรอบ 10 ปี ส่งผลให้บางประเทศในแถบอาเซียนมีค่าเงินที่อ่อนค่าลงอย่างมาก และยังต้องสูญเสียเงินสำรองระหว่างประเทศจนทำให้มีเหลือน้อยเมื่อเทียบกับหน้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นความเสี่ยงของการเกิดวิกฤตในภาคการเงิน และวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นอีกครั้ง พร้อมประเมินว่า การไหลออกของเงินทุนในไทย และการอ่อนค่าของเงินบาทจะไม่รุนแรง
กำลังโหลดความคิดเห็น