รอยเตอร์/เอเอฟพี - โฟล์คสวาเกนจะแต่งตั้งประธานปอร์เช่ ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทในวันศุกร์ (25 ก.ย.) แทนที่นายมาร์ติน วินเทอร์คอร์น ที่ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องอื้อฉาวโกงการทดสอบไอเสีย รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับประเด็นนี้เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (24 ก.ย) ขณะที่เอสแอนด์พี กลายเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือล่าสุดที่ขู่ปรับลดเครดิตผู้ผลิตรถยต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติเยอรมนีแห่งนี้
แหล่งข่าวเปิดเผยว่านายแมตเธียส มุลเลอร์ อดีตหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งเพิ่งเข้าเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา เป็นที่ชื่นชอบในหมู่เสียงข้างมากของสมาชิกคณะกรรมการกำกับดูแลของโฟล์คสวาเกน 20 คน ที่จะให้การรับรองเขาในฐานะซีอีโอคนใหม่ระหว่างการประชุมในวันศุกร์ (25ก.ย.) นี้
นายวินเทอร์คอร์น วิศวกรจากการฝึกอบรม กุมบังเหียนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของยุโรปมานานเกือบ 9 ปี ก่อนตัดสินใจลาอออกในวันพุธ (23 ก.ย.) เพื่อรับผิดชอบต่อเรื่องอื้อฉาวทางธุรกิจครั้งสาหัสสากรรจ์ที่สุดในประวัติศาสตร์ 78 ปีของโฟล์คสวาเกน
ส่วนนายมุลเลอร์ เคยนั่งเก้าอี้ในออดี้ บริษัทในเครือของโฟล์คสวาเกนมาหลายตำแหน่ง ก่อนเข้ารับงานที่ปอร์เช่ในปี 2010 โดยเขาเคยเป็นตัวเต็งขึ้นแท่นผู้บริหารสูงสุดของโฟล์คสวาเกนแทน เฟอร์ดินาน เพียช ซึ่งนั่งเก้าอี้ตัวนี้มานานและเพิ่งลาออกไปในเดือนเมษายน ตามหลังการต่อสู้ทางอำนาจกับนายวินเทอร์คอร์น
เหล่าตัวแทนแรงงาน ซึ่งครองเสียงครึ่งหนึ่งในคณะกรรมการกำกับดูแล เผยว่าจะยอมรับแต่บุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและชำนาญการด้านประกอบการเท่านั้น เช่นเดียวกับมีความสามารถในการเข้าสังคม แต่ทางโฟล์คสวาเกน ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนีต้องเผชิญกับวิกฤตใหญ่หลวง หลังถูกเปิดโปงว่ารถยนต์เครื่องดีเซลที่บริษัทผลิตส่งขายไปทั่วโลกจำนวนถึง 11 ล้านคัน มีการติดตั้งอุปกรณ์ซอฟต์แวร์ซึ่งสามารถโกงการทดสอบไอเสีย เรื่องอื้อฉาวนี้ถูกเผยแพร่ออกมาโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และเวลานี้มันลุกลามไปทั่วโลก ด้วยนอกเหนือจากอเมริกาแล้ว ฝรั่งเศสและเกาหลีใต้ ต่างแถลงจะดำเนินการสืบสวนเช่นกัน
จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ โฟล์คสวาเกนยอมรับว่า มีรถยนต์ใช้เครื่องดีเซลราว 482,000 คันซึ่งผลิตในสหรัฐฯ โดยกลุ่มโฟล์กสวาเกนได้ติดตั้งซอฟต์แวร์พิเศษควบคุมมลพิษ โดยที่ซอฟต์แวร์นี้จะเปิดใช้งานเฉพาะตอนที่รถยนต์เข้ารับการตรวจสอบการปล่อยไอเสีย แต่ระบบจะถูกปิดลงระหว่างที่มีการขับขี่ตามปกติ
สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (อีพีเอ) ระบุ เท่ากับว่าเมื่อระบบควบคุมมลพิษถูกปิดใช้งาน รถเหล่านั้นอาจปล่อยมลพิษซึ่งรวมถึงไนโตรเจนออกไซด์เข้าสู่อากาศในปริมาณสูงถึง 40 เท่าของมาตรฐานการปล่อยไอเสีย
ประเด็นอื้อฉาวนี้ยังคุกคามชื่อเสียงที่สะสมมายาวนานของบริษัท โดยล่าสุดทาง สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส (เอสแอนด์พี) เป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือล่าสุดที่ขู่ลดอันดับเครดิตของโฟล์คสวาเกน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ฟิตช์ เรตติ้ง ออกมาขู่ลดอันดับความน่าเชื่อถือของโฟล์คสวาเกน จากข่าวคราวอื้อฉาวโกงการตรวจสอบมลพิษ โดยวางสถานะให้อยู่ภายใต้การทบทวนจนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งเลวร้ายนี้
เวลานี้อันดับความน่าเชื่อถือหนี้ระยะยาวของโฟล์คสวาเกนอยู่ที่ระดับ A หมายความว่าคุณภาพเครดิตสูง แต่ด้วย ฟิตช์ ได้วางเครดิตของโฟล์คสวาเกน ไว้ในสถานะเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ นั่นหมายความว่ามีความเสี่ยงสูงที่บริษัทสัญชาติเยอรมันแห่งนี้จะถูกปรับลดอันดับซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของโฟล์คสวาเกนสูงขึ้น