เอเอฟพี - หน่วยงานด้านสาธารณสุขของเซียร์ราลีโอนออกมาเปิดเผยในวันอังคาร (15 ก.ย.) ว่า ได้กักบริเวณผู้คนเกือบ 700 ราย เพื่อดูอาการ อันเป็นหนึ่งในมาตรการรับมือการระบาดรอบใหม่ของเชื้อไวรัสอีโบลา ที่ทำให้สาววัย 16 ปีเสียชีวิตไปแล้ว
สาววัยรุ่นรายนี้ได้เสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ บริเวณรอบนอกของเมืองมาเกนี ในจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศที่ไม่เคยมีบันทึกผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เลย ในช่วงเกือบ 6 เดือนที่ผ่านมา
“ผู้คนกว่า 680 รายในหมู่บ้านโรบูเรห์กำลังถูกกักตัวดูอาการเป็นเวลา 21 วัน” อามาดู ตุลเลาะห์ โฆษกของศูนย์รับมืออีโบลาประจำท้องถิ่น บอกเอเอฟพี
ทางศูนย์ฯ ยังได้บอกด้วยว่า ผู้ที่ถูกกักตัวดูอาการเหล่านั้น มีพ่อแม่และญาติที่ใกล้ชิด รวมถึงเพื่อนร่วมชั้นเรียนของสาววัยรุ่นผู้เสียชีวิตด้วย
“พวกเขาถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง แม้ว่าจะยังไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ก็ตาม” เซเรย์ ตูเรย์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ระบุ
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกเอเอฟพี ว่า มาเกนี ที่เป็นเมืองใหญ่สุดทางตอนเหนือของเซียร์ราลีโอน สภาพจิตใจของผู้คนในบริเวณที่ได้รับผลกระทบกำลังย่ำแย่อย่างมาก
“มันเหมือนกับการปลุกให้ตื่นจากภวังค์ ให้เรารู้ว่าอีโบลายังคงมีอยู่ในประเทศนี้” เจ้าหน้าที่ระบุ
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี เออร์เนส ไบ โคโรมา ได้เป็นผู้นำในการจัดงานเฉลิมฉลองการปล่อยตัวผู้ติดเชื้ออีโบลารายสุดท้ายออกจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองเมเกนี
หลังจากนั้น ก็ไม่มีบันทึกการพบผู้ติดเชื้อเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ ทำให้เซียร์ราลีโอนเตรียมจะร่วมกับลิเบียในการนับถอยหลังสู่การประกาศว่าเป็นประเทศปลอดเชื้ออีโบลา แต่แล้วก็ต้องมาพบผู้เสียชีวิตรายล่าสุดนี้
คนในหมู่บ้านโรบูเรห์ได้บอกเอเอฟพีทางโทรศัพท์ ว่า ชุมชนของพวกเขาที่เคยคึกคัก ตอนนี้กลายเป็นเงียบราวกับป่าช้า ผู้คนต่างก็พากันหลบอยู่ในบ้านของตนเอง
“ไม่มีแม้กระทั่งเสียงนกร้องให้ได้ยิน ทุกอย่างหยุดนิ่งไปหมด เมื่อเช้ามีแค่ไม่กี่คนที่ออกไปทำฟาร์ม ผมไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง” ชาวบ้านบอกนักข่าวทางโทรศัพท์
