รอยเตอร์/เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษเดินทางมาถึงกรุงเบรุตในวันนี้ (14 ก.ย.) เพื่อเยี่ยมเยือนผู้ลี้ภัยจากสงครามในประเทศซีเรียที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งได้บีบให้ประชาชนกว่าหนึ่งล้านคนต้องอพยพหลบหนีเข้าไปยังเลบานอนและหลายแสนเข้าสู่ยุโรป สื่อเลบานอนรายงาน
คาเมรอนได้พบปะผู้ลี้ภัยที่ค่ายแห่งหนึ่งนอกเมืองเทอร์โบลในหุบเขาเบกาทางภาคตะวันออกของเลบานอน ประเทศนี้ซึ่ง 1 ใน 4 ของประชากรเป็นผู้ลี้ภัยกำลังรับดูแลผู้ลี้ภัยมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก พวกเขาเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ แบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งนี้
คาเมรอนกล่าวว่า เขาอยากเห็นและรับฟังเรื่องราวของผู้ลี้ภัยและสิ่งที่พวกเขาต้องการด้วยตนเอง เขากล่าวว่า อังกฤษเป็นผู้บริจาคเงินให้กับค่ายผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในภูมิภาคนี้มากเป็นอันดับ 2 อยู่แล้ว
“เราจะทำเช่นนั้นต่อไปรวมถึงเพิ่มจำนวนเงินที่เราจัดสรรเพื่อให้การศึกษาเด็กชาวซีเรียที่นี่ในเลบานอนและที่อื่นๆ” เขากล่าว “ผมคิดว่านั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
คาเมรอนยังมีกำหนดการร่วมพูดคุยเรื่องวิกฤตผู้ลี้ภัยกับนายกรัฐมนตรี ทัมมัม ซาลัม ของเลบานอนด้วย ถ้อยแถลงจากสำนักนายกรัฐมนตรีเมืองผู้ดีระบุว่า เขาได้แต่งตั้ง ริชาร์ด แฮร์ริงตัน เป็นรัฐมนตรีรับผิดดูแลการตั้งถิ่นฐานใหม่ให้กับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย
สงครามซีเรียซึ่งคร่าชีวิตคนไปกว่า 250,000 คนนับตั้งแต่ปี 2011 ได้บีบให้ครึ่งหนึ่งของประชากรชาวซีเรียทั้งหมดต้องละทิ้งบ้านเรือนของพวกเขา ก่อให้เกิดผู้ลี้ภัย 4 ล้านคน และผู้พลัดถิ่นภายในประเทศอีกราว 7.6 ล้านคน นี่เป็นวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ผู้ลี้ภัยบางคนในเลบานอนอาศัยอยู่ในชุมชนเต้นท์แบบไม่เป็นทางการซึ่งเข้าถึงไฟฟ้าและน้ำสะอาดได้ยาก ขณะที่คนอื่นๆ เช่าโรงรถ ห้องว่างหรืออาคารเปล่าเป็นที่อยู่ให้กับครอบครัวของพวกเขา
ผู้ลี้ภัยหลายหมื่นคนเดินทางระหกระเหินจากกรีซผ่านคาบสมุทรบอลข่านและฮังการีสู่ยุโรปตะวันตก วิกฤตดังกล่าวกระตุ้นให้ผู้นำยุโรปบางคนต้องประกาศรับผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้น นำโดยเยอรมนีที่คาดว่าจะมีผู้อพยพเข้าประเทศ 800,000 คนในปีนี้
เมื่อไม่นานมานี้ คาเมรอนประกาศว่า อังกฤษจะรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 20,000 คนในช่วง 5 ปีข้างหน้า และมีแผนที่จะให้เงินช่วยเหลือเพิ่มอีก 100 ล้านปอนด์ ทำให้เงินบริจาครวมของอังกฤษอยู่ที่ 1 พันล้านปอนด์ ทั้งนี้อ้างจากข้อมูลของรัฐบาล
ราว 40 ล้านปอนด์ของเงินก้อนนี้จะถูกจัดสรรให้กับองค์การสหประชาชาติและบรรดากลุ่มเอ็นจีโอที่ทำงานในเลบานอน จอร์แดน และตุรกี เพื่อจัดหาที่พักพิง อาหาร ถุงยังชีพ และการบริการด้านอนามัยและการป้องกัน ตลอดจนความช่วยเหลือด้วยเงินสด ดาวนิงสตรีทระบุในวันนี้ (14)
