อังกฤษและฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์(7ก.ย.) เข้าร่วมกับเยอรมนี ประกาศอ้าแขนรับผู้อพยพหลายหมื่นคนท่ามกลางวิกฤตผู้คนหลบหนีภัยสงครามและความทุกข์ยากไหลบ่าเข้าสู่ยุโรปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมชี้หากยุโรปไม่ร่วมมือกันข้อตกลงเชงเก้นก็จะพังครืน
เหล่าผู้นำยุโรปกำลังตะเกียกตะกายหาทางแก้ไขวิกฤติผู้อพยพหลังความขัดแย้งนองเลือดในซีเรีย อิรักและอื่นๆ ได้ผลักให้ผ้คนนับแสนตะเกียกตะกายเสี่ยงชีวิตร่องเรือผ่านคาบสมุทรบอลข่านและข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมายังอียู
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐฒนตรีเยอรมนี ซึ่งประเทศของเธอคือจุดหมายปลายทางลำดับต้นๆของผู้อพยพ กล่าวชื่นชมประชาชนเมืองเบียร์ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นต่อผู้ประสงค์ลี้ภัยราว 20,000 คน ที่ขึ้นรถไฟหลั่งไหลมาจากชายแดนตอนใต้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และประกาศอัดฉีดงบประมาณหลายพันล้านล้านยูโร สนับสนุนด้านที่พักอาศัยแก่พวกเขา
ในการส่งสัญญาณว่าการเดินทางมาถึงระลอกใหญ่ของผู้อพยพคือเหตุการณ์สำคัญของชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่สุดของยุโรปแห่งนี้ นางแมร์เคิลบอกว่า "สิ่งที่เรากำลังประสบในตอนนี้ จะเป็นบางอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศของเราในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราต้องการเปลียนแปลงในทางบวก และเราเชื่อว่าสามารถประสบความสำเร็จได้"
อียูที่ถูกกดดันอย่างหนักจากเบอร์ลินและปารีสนั้น ในที่สุดก็ลุกขึ้นมาเตรียมพร้อมระบบโควตาใหม่ โดยที่ภายใต้ข้อเสนอของฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปนั้น เยอรมนีและฝรั่งเศส 2 ชาติเจ้าของเศรษฐกิจใหญ่สุดในอียู จะรองรับผู้อพยพเกือบครึ่งหนึ่งของ 120,000 คนที่ขณะนี้อยู่ในกรีซ อิตาลี และฮังการี
ทั้งนี้ฝรั่งเศสเผยว่าจะอ้าแขนรับผู้ลี้ภัย 24,000 คนภายใต้แผนดังกล่าว ส่วนเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยว่าประเทศของเขาจะรับผู้อพยพชาวซีเรียจากแคมป์ต่างๆใกล้ชายแดนประเทศที่ถูกฉีกขาดด้วยสงคราม 20,000 คนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่รัฐควิเบก ของแคนาดา ฝั่งตรงข้ามมหาสมุทรแอตแลนติด ระบุในปีนี้ยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัยซีเรีย 3,650 คน
เหล่าผู้นำยุโรปกำลังตะเกียกตะกายหาทางแก้ไขวิกฤติผู้อพยพหลังความขัดแย้งนองเลือดในซีเรีย อิรักและอื่นๆ ได้ผลักให้ผ้คนนับแสนตะเกียกตะกายเสี่ยงชีวิตร่องเรือผ่านคาบสมุทรบอลข่านและข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมายังอียู
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐฒนตรีเยอรมนี ซึ่งประเทศของเธอคือจุดหมายปลายทางลำดับต้นๆของผู้อพยพ กล่าวชื่นชมประชาชนเมืองเบียร์ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นต่อผู้ประสงค์ลี้ภัยราว 20,000 คน ที่ขึ้นรถไฟหลั่งไหลมาจากชายแดนตอนใต้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และประกาศอัดฉีดงบประมาณหลายพันล้านล้านยูโร สนับสนุนด้านที่พักอาศัยแก่พวกเขา
ในการส่งสัญญาณว่าการเดินทางมาถึงระลอกใหญ่ของผู้อพยพคือเหตุการณ์สำคัญของชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่สุดของยุโรปแห่งนี้ นางแมร์เคิลบอกว่า "สิ่งที่เรากำลังประสบในตอนนี้ จะเป็นบางอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศของเราในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราต้องการเปลียนแปลงในทางบวก และเราเชื่อว่าสามารถประสบความสำเร็จได้"
อียูที่ถูกกดดันอย่างหนักจากเบอร์ลินและปารีสนั้น ในที่สุดก็ลุกขึ้นมาเตรียมพร้อมระบบโควตาใหม่ โดยที่ภายใต้ข้อเสนอของฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปนั้น เยอรมนีและฝรั่งเศส 2 ชาติเจ้าของเศรษฐกิจใหญ่สุดในอียู จะรองรับผู้อพยพเกือบครึ่งหนึ่งของ 120,000 คนที่ขณะนี้อยู่ในกรีซ อิตาลี และฮังการี
ทั้งนี้ฝรั่งเศสเผยว่าจะอ้าแขนรับผู้ลี้ภัย 24,000 คนภายใต้แผนดังกล่าว ส่วนเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยว่าประเทศของเขาจะรับผู้อพยพชาวซีเรียจากแคมป์ต่างๆใกล้ชายแดนประเทศที่ถูกฉีกขาดด้วยสงคราม 20,000 คนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่รัฐควิเบก ของแคนาดา ฝั่งตรงข้ามมหาสมุทรแอตแลนติด ระบุในปีนี้ยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัยซีเรีย 3,650 คน