องค์กรโลกครวญสหรัฐฯ นิ่งดูดายวิกฤตผู้อพยพ แฉที่ผ่านมารับคนลี้ภัยแค่หยิบมือ

วอยซ์ออฟอเมริกา - คณะกรรมการช่วยเหลือนานาชาติ (International Rescue Committee) เมื่อวันจันทร์ (7 ก.ย.) เดินหน้ากดดันสหรัฐฯ ให้ดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่เพื่อบรรเทาชะตากรรมอันเลวร้ายของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่กำลังหลบหนีความขัดแย้งและหลั่งไหลเข้ามายังสหภาพยุโรป หลังอเมริกาแย้มจะรับผู้อพยพเพิ่มอีกแค่ 1,500 ราย ถือเป็นจำนวนน้อยนิดหากเทียบกับเยอรมนีที่คาดหมายว่าเฉพาะปีนี้ปีเดียวจะรองรับผู้อพยพราว 800,000 คน

เดวิด มิลิแบนด์ ประธานของไออาร์ซี บอกว่าด้วยประเทศต่างๆ อย่างตุรกี จอร์แดน และเลบานอน กำลังโงนเงนจากการที่ต้องแบกรับภาระผู้ลี้ภัยชาวซีเรียถึง 4.5 ล้านคน ดังนั้น สหรัฐฯ จำเป็นต้องเพิ่มบทบาทของตนเองในการจัดตั้งรกรากใหม่แก่ผู้อพยพ

“ตลอด 4 ปีของสงคราม สหรัฐฯรับผู้ลี้ภัยซีเรียรวมแล้วแค่ 1,400 คน” มิลิแบนด์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายงานของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี “เพื่อธำรงไว้ซึ่งสถานะความเป็นของนำด้านที่ตั้งรกรากใหม่ของผู้ลี้ภัย สหรัฐฯ ควรรับผู้อพยพชาวซีเรีย 65,000 คน จากทั้งหมด 130,000 คน ที่สหประชาชาติตั้งเป้าให้ประเทศต่างๆ ช่วยรับไปตั้งรกรากใหม่ช่วงสิ้นปี 2016”

อย่างไรก็ตาม ระหว่างให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าอเมริกาจะรับชาวซีเรียเพิ่มเติมอีกแค่ 1,500 คนในปีนี้หรือปีต่อๆ ไป

ประธานของไออาร์ซีระบุเยอรมนีกำลังรับบทบาทผู้นำในประเด็นนี้ ด้วยคาดหมายว่าแค่ปีนี้จะอ้าแขนรับผู้อพยพราว 800,000 คน อย่างไรก็ตาม เขามองว่าประเทศอื่นๆในสหภาพยุโรปและประชาคมนานาชาติทั้งมวลยังตอบสนองไม่เพียงพอต่อวิกฤตผู้อพยพ ปัญหาซึ่งมีต้นตอจากความขัดแย้งในซีเรียที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 ปี นอกจากนี้ แล้วนายมิลิแบนด์ยังเรียกร้องชาติมั่งคั่งต่างๆ ในอ่าวเปอร์เซีย เข้าร่วมดูแลผู้ลี้ภัยหลายแสนคนเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จอช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวบอกว่านับตั้งแต่ปี 2011 สหรัฐฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่คนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งซีเรียมากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ “นั่นคือคำสัญญาที่เป็นรูปธรรมและแน่นอนว่ามันมากกว่าที่ประเทศไหนๆ ทำ” เขากล่าว พร้อมระบุว่าความช่วยเหลือเหล่านั้นส่งผ่านช่องทางของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ

เออร์เนสต์ยอมรับว่า ประเด็นผู้อพยพกลายเป็นปัญหาทางนโยบายที่ยุ่งยากสำหรับสหรัฐฯ เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมาก ในนั้นมาเป็นครอบครัวหอบหิ้วลูกๆ ลักลอบเข้าอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย โดยคาดหมายว่าปัจจุบันมีผู้อาศัยอยู่ในประเทศโดยไม่มีใบอนุญาตถึงราวๆ 11 ล้านคน

โจนาธาน อาเดลมาย ศาสตราจารย์ศึกษานานาชาติของมหาวิทยาลัยเดนเวอร์ ในโคโลราโด บอกว่า “สหรัฐฯ มีกฎหมายที่เข้มงวดอย่างมากเพราะเราเองก็มีปัญหาของตัวเอง” อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่าภาพถ่ายศพหนูน้อยถูกซัดเกยตื้นชายหาดตุรกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะกระพือเสียงถกเถียงรอบใหม่กดดันให้ทางการดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่เพื่อบรรเทาวิกฤตผู้อพยพ