เอเอฟพี - รัฐบาลสหรัฐฯ จะเปิดรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียราว 5,000-8,000 เข้าไปตั้งถิ่นฐานบนแผ่นดินอเมริกาในปี 2016 เจ้าหน้าที่อเมริกันเผยวานนี้ (24 ส.ค.)
จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ปัจจุบันมีผู้ลี้ภัยซีเรียถูกส่งไปยังสหรัฐฯ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วถึง 15,000 คน ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)
เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว วอชิงตันระบุว่าได้รับผู้ลี้ภัยซีเรียที่ยูเอ็นส่งเข้ามาประมาณ 9,000 คน
สหรัฐฯ เคยแถลงก่อนหน้านั้นว่าจะเปิดรับผู้ลี้ภัยซีเรีย 1,000-2,000 คนในปีงบประมาณ 2015 และในปี 2016 ก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นอีก 2,000-3,000 คน ที่ผ่านมารัฐบาลอเมริกันถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ยอมรับผู้ลี้ภัยจำนวนมากกว่านี้ ทั้งที่ในซีเรียมีผู้ที่ต้องพลัดถิ่นฐานเพราะภัยสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2011 ถึงราวๆ 4 ล้านคน
อย่างไรก็ดี เคอร์บีย์แย้งว่า สหรัฐฯ ถือเป็นผู้นำในการให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัย และมอบความช่วยเหลือทั้งในด้านการเงินและการตั้งถิ่นฐาน ทว่าภารกิจดังกล่าว “ยังไม่ใช่มาตรวัดความสำเร็จ”
“ดังนั้น สิ่งที่เราตั้งใจจะทำก็คือ สนับสนุนให้เกิดการผ่องถ่ายอำนาจในซีเรีย เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยให้ชาวซีเรียเหล่านี้สามารถกลับไปยังบ้านของพวกเขาได้ รวมถึงอีกหลายล้านคนที่ยังลี้ภัยอยู่ในตุรกี”
ตั้งแต่ปี 2011 สหรัฐฯ ใช้งบประมาณไปแล้วราว 4,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านมนุษยธรรมต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในซีเรีย
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ยอดผู้ลี้ภัยซีเรียพุ่งทะลุ 4 ล้านคนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้อาจเพิ่มขึ้นเป็น 4.27 ล้านคน