เอพี – นักแสดงสาวชาวอเมริกัน “แองเจลินา โจลี” เรียกร้องให้มหาอำนาจทั่วโลกหยิบยื่นความช่วยเหลือต่อพลเมืองซีเรียนับล้านที่ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย เพราะพิษสงครามกลางเมือง พร้อมทั้งตำหนิความแตกแยกภายในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งทำให้ยูเอ็นไม่สามารถออกมาตรการเด็ดเดี่ยวเพื่อยุติการนองเลือดได้
คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นได้จัดการประชุมวานนี้ (24 เม.ย.) เพื่อหารือรายละเอียดของการเจรจาที่จะมีขึ้นในเดือนหน้าที่นครเจนีวา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยุติเหตุนองเลือดในซีเรียที่ยืดเยื้อมากว่า 4 ปี
โจลี กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฯ ในฐานะทูตพิเศษของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในขณะที่ผู้แทนซีเรียประจำยูเอ็นถึงกับออกปากชมว่า “เธอสวยมาก”
ปัจจุบันมีชาวซีเรียเกือบ 4 ล้านคน ที่หนีภัยสงครามข้ามไปอาศัยในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรัฐบาลเหล่านั้นก็แสดงความเป็นห่วงเรื่องจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นจนจะรองรับไม่ไหว
“ทุกครั้งที่เรามองซีเรีย เราจะเห็นถึงความชั่วร้ายซึ่งเกิดจากเถ้าถ่านแห่งความลังเลไม่กล้าตัดสินใจ และย่อมอดคิดไม่ได้ว่า นี่แหละคือความตกต่ำถึงขีดสุดของประชาคมโลกที่ไม่สามารถปกป้องและช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์” โจลี กล่าว
นักแสดงสาววัย 39 ปี ซึ่งเคยไปเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยซีเรียมาแล้ว 11 ครั้งตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นในปี 2011 เตือนว่าตราบใดที่คณะมนตรีความมั่นคงฯ ยังขัดแย้งกันเอง อำนาจที่มีในมือก็ไม่สามารถใช้ให้เกิดประโยชน์
รัสเซียซึ่งเป็นมิตรกับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ใช้อำนาจวีโตมติของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ที่จะเป็นผลเสียกับดามัสกัสหลายครั้ง รวมถึงร่างมติร้องศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ให้ไต่สวนอาชญากรรมสงครามซีเรีย เมื่อปีที่แล้ว
โจลี เรียกร้องให้รัฐมนตรีต่างประเทศจาก 15 ชาติ ร่วมวงสนทนาเพื่อหาวิธีทางการเมืองยุติสงครามซีเรีย และขอให้สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงฯ เดินทางไปเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัย เพื่อจะได้เห็นและเข้าใจปัญหาด้วยตนเอง
โจลี ยังเอ่ยถึงคลื่นผู้อพยพจากซีเรียและประเทศอื่นๆ ที่พยายามล่องเรือข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมายังยุโรป หลังจากช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุเรือผู้ลี้ภัยล่มจนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,300 คน
“น่าสลดใจเหลือเกินที่ผู้ลี้ภัยเป็นพันคนต้องจบชีวิตกลางทะเล ทั้งๆ ที่อยู่ปากประตูทวีปซึ่งมั่งคั่งที่สุด... ไม่มีใครกล้าเอาชีวิตลูกหลานตัวเองมาเสี่ยงแบบนี้ ถ้าไม่อยู่ในสภาวะอับจนจริงๆ” โจลี กล่าว