เอเอฟพี – กลุ่มปกป้องสิทธิชาวยิวออกคำแถลงตำหนินายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ แห่งออสเตรเลียวันนี้ (3 ก.ย.) หลังผู้นำแดนจิงโจ้ให้สัมภาษณ์ว่ากลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่ยึดดินแดนอิรักและซีเรีย “เลวร้ายยิ่งกว่านาซี” เพราะนอกจากจะมีพฤติกรรมป่าเถื่อนแล้วยัง “โอ้อวด” ความชั่วของพวกตนด้วย
แอบบ็อตต์ ซึ่งกำลังพิจารณาขยายบทบาทกองทัพออสซี่ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มไอเอสตามที่สหรัฐฯ ร้องขอมา ระบุว่า สิ่งที่นักรบญิฮาดกลุ่มนี้ทำถือเป็น “ความชั่วร้ายสุดที่จะกล่าว” และเทียบได้กับ “ความป่าเถื่อนในยุคกลาง”
“ผมหมายความว่า นาซีทำสิ่งที่ชั่วร้ายมากก็จริง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีความละอายพอที่จะพยายามปกปิดความชั่วเอาไว้ ในขณะที่นักรบพวกนี้โอ้อวดความเลวของตัวเองอย่างไม่สะทกสะท้าน” แอบบ็อตต์ ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีวิทยุ 2GB ในนครซิดนีย์
“นี่ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา พวกเขาทำตัวเหมือนคนป่าเถื่อนในยุคกลาง มีแต่กลุ่มติดอาวุธพวกนี้เท่านั้นที่กล้าประจานความชั่วตัวเองต่อคนทั่วโลก ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเลวทรามยิ่งขึ้นไปอีก”
คำพูดของ แอบบ็อตต์ สร้างความขุ่นเคืองใจต่อชุมชนชาวยิว โดย โรเบิร์ต กูต สภาชาวยิวแห่งออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่ผู้นำแดนจิงโจ้พูดออกมานั้น “ไม่ฉลาดและน่าเสียดาย”
กูต ระบุว่า อาชญากรรมที่พวกไอเอสก่อขึ้นเลวร้ายมากก็จริง “แต่ยังเทียบไม่ได้กับพวกนาซีที่ไล่ล่าล้อมจับชาวยิวนับล้านๆ คนอย่างเป็นระบบ และส่งพวกเขาไปยังค่ายกักกันที่สร้างขึ้นมาเพื่อสังหารหมู่โดยเฉพาะ”
“การก่อการร้ายจำเป็นต้องให้คนเห็นมากๆ เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ... ในทางตรงกันข้าม พวกที่รับผิดชอบระบบสังหารหมู่ซึ่งรัฐให้การสนับสนุนก็คือเจ้าหน้าที่ระดับสูง และที่คนพวกนี้ต้องกระทำการอย่างลับๆ ก็ไม่ใช่เพราะละอาย แต่เพราะกลัวที่จะต้องรับผิดชอบต่างหาก”
แอบบ็อตต์ พยายามแก้ต่างให้ตัวเองระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่เมลเบิร์น โดยบอกว่า เขา “ไม่ได้มีหน้าที่จัดอันดับความชั่วร้าย”
“แต่ผมยังยืนยันประเด็นนี้อยู่ว่า ในขณะที่พวกผู้ร้ายในอดีตไม่ว่าจะเป็น สตาลิน ฮิตเลอร์ หรือคนอื่นๆ พยายามปกปิดความชั่วของพวกเขาเอง แต่พวกนักรบลัทธิคลั่งความตายเหล่านี้กลับโอ้อวดได้อย่างหน้าไม่อาย”
“”แต่ละวันเราได้เห็นความโหดร้ายใหม่ๆ ของพวกเขาเผยแพร่ออกสู่สายตาชาวโลก เป็นความป่าเถื่อนที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม... และด้วยเหตุนี้ ประชาชนคนดีๆ ทั่วโลกจึงควรผนึกกำลังต่อต้านลัทธิคลั่งความตายพวกนี้ และทำทุกอย่างเท่าที่เราจะทำได้ด้วยเหตุและผล เพื่อขัดขวาง บั่นทอน และทำลายคนกลุ่มนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
รัฐบาลแคนเบอร์ราคาดว่า มีพลเมืองออสซี่ราว 120 คนไปจับอาวุธสู้รบร่วมกับพวกไอเอสอยู่ในอิรักและซีเรีย ในจำนวนนี้ถูกสังหารไปแล้วอย่างน้อย 30 คน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่ให้การสนับสนุนนักรบญิฮาดอยู่ในออสเตรเลียอีกประมาณ 160 คน
ทางการออสเตรเลียได้ยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายเป็น ขั้นสูง” ตั้งแต่ปีที่แล้ว และยังประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงใหม่ รวมถึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอาคารต้องสงสัยเพื่อสกัดแผนก่อเหตุรุนแรงในประเทศ