เอเอฟพี - ดัชนีตลาดหุ้นโตเกียวดำดิ่งเกือบ 4 เปอร์เซ็นต์ โดยปิดตลาดในวันอังคาร (25 ส.ค.) ด้วยตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน แม้ว่าในช่วงเช้าจะเด้งกลับขึ้นมาบ้างก็ตาม
ดัชนีนิกเกอิ 225 ของตลาดหุ้นโตเกียวได้ปิดตลาดที่ 17,806.70 ลดลงไป 733.98 จุด เป็นการปิดในแดนลบต่อเนื่องครั้งที่ 6 ของช่วงเวลาการซื้อขายหุ้นตลอดหลายวันที่ผ่านมา และต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีการเด้งกลับมาอยู่ในแดนบวกช่วงสั้นๆ ก่อนพักปิดตลาดภาคเช้า
ด้านดัชนีทอปปิกซ์ที่คำนวนจากราคาหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมดในหมวดแรกของตลาดหุ้นโตเกียว มีการแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกและลบ แล้วปิดตลาดที่ 1,432.65 ลดลงไป 48.22 จุด คิดเป็นสัดส่วน 3.26 เปอร์เซ็นต์
ดัชนีนิกเกอิได้ร่วงลงไปมากกว่า 4.0 เปอร์เซ็นต์ในตอนเปิดตลาด ก่อนที่จะเด้งกลับมาในช่วงสาย จากนั้นก็ร่วงหนักในช่วงบ่ายจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นต้องออกมาเรียกร้องให้นักลงทุนในตลาดอย่าหวั่นวิตก
“พื้นฐานเศรษฐกิจโลกยังไม่สั่นคลอน ความใจเย็นคือสิ่งที่จำเป็นมากตอนนี้” อากิระ อามาริ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของญี่ปุ่นบอกนักข่าว
ด้านรัฐมนตรีคลัง “ทาโร อาโซะ” ระบุว่า ยังไม่มีแผนเฉพาะหน้าเพื่อกระตุ้นทางการเงินสำหรับรับมือกับขาลงของตลาดหุ้นในประเทศ พร้อมบอกด้วยว่ามีการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับประเทศกลุ่ม G7 รายอื่นๆ เรื่องความผันผวนของตลาด
ตลอดช่วงเวลาเปิดตลาด 6 รอบที่ผ่านมา ดัชนีนิกเกอิได้ร่วงลงไปแล้ว 13 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นทั่วโลกก็พากันแดงเถือกเช่นกัน จากความไม่แน่นอนของจีนซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทั่วโลก แต่ตอนนี้ถูกมองว่าเป็นภัยต่อเศรษฐกิจโลก
ความหวาดกลัวได้ทวีคูณขึ้นหลังจากธนาคารกลางของจีนลดค่าเงินหยวนเพื่อหวังกระตุ้นการส่งออก ทำให้เกิดความกังวลเรื่องสภาวะของเศรษฐกิจและความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามค่าเงิน
ด้านตลาดหุ้นจีนที่เซี่ยงไฮ้ ดัชนีลดลงไป 7.63 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 2964.97 ถือเป็นการปิดที่ระดับต่ำกว่า 3,000 จุดเป็นครั้งแรกในปีนี้ หลังจากที่เมื่อวันจันทร์เพิ่งจะเจอกับการร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2007
ส่วนดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง เด้งกลับมาอยู่ในแดนบวกได้หลังร่วงไปในตอนแรก โดยปิดตลาดในวันอังคารที่ 21,404.96 เพิ่มขึ้นมา 153.39 จุด คิดเป็น 0.72 เปอร์เซ็นต์