xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นจีน - ญี่ปุ่น ยังอ่วม ส่วนชาติอื่นในเอเชียปิดบวก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ตลาดหุ้นในแถบเอเชียมีทิศทางที่หลากหลาย ดัชนีมีการแกว่งตัวไปมาตลอดช่วงการซื้อขายในวันอังคาร (25 ส.ค.) โดยทางโตเกียวยังดำดิ่งต่อเนื่อง ส่วนเซี่ยงไฮ้ร่วงลงไปต่ำสุดในรอบเกือบ 20 ปี ขณะที่ตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน มีการเด้งกลับมาอยู่ในแดนบวก

ด้านสกุลเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่า ส่วนราคาน้ำมันยังคงซบเซาหลังจากเมื่อช่วงสิ้นสุดวันจันทร์ ราคาร่วงลงไปต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

ดัชนีตลาดหุ้นที่เซี่ยงไฮ้ได้ลดลงไป 244.94 จุด คิดเป็น 7.63 เปอร์เซ็นต์ ปิดตลาดที่ 2,964.97 ทำให้การเพิ่มขึ้นของดัชนีในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้หายวับไปจนหมด แถมการร่วงในช่วง 4 วันที่ผ่านมายังถือว่าหนักสุดนับตั้งแต่ปี 1996

ส่วนที่โตเกียว ดัชนีตลาดหุ้นมีการลดลงไป 733.98 จุด คิดเป็น 3.85 เปอร์เซ็นต์ โดยปิดตลาดที่ 17,806.70 ถือเป็นการปิดตลาดในแดนลบต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 ทั้งยังต่ำสุดในรอบ 6 เดือน นับตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกันกลับมีการเด้งขึ้นมาอยู่ในแดนบวก โดยที่ซิดนีย์มีการปรับเพิ่มขึ้น 136.02 จุด คิดเป็น 2.72 เปอร์เซ็นต์ ปิดตลาดที่ 5,137.30 ส่วนที่โซลเพิ่มขึ้น 16.82 จุด คิดเป็น 0.92 เปอร์เซ็นต์ ปิดตลาดที่ 1,846.63 ขณะที่ฮ่องกงเพิ่มขึ้น 153.39 จุด คิดเป็น 0.72 เปอร์เซ็นต์ ปิดตลาดที่ 21,404.96

ดัชนีตลาดหุ้นที่ไทเปมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 265.30 จุด คิดเป็น 3.58 เปอร์เซ็นต์ ปิดตลาดที่ 7,675.64 ส่วนดัชนีตลาดหุ้นที่เวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.98 จุด คิดเป็น 0.11 เปอร์เซ็นต์ ปิดตลาดที่ 5,613.29 ด้านดัชนีตลาดหุ้นที่มะนิลา เพิ่มขึ้น 39.33 จุด คิดเป็น 0.58 เปอร์เซ็นต์ ปิดตลาดที่ 6,830.34

ตราสารทุนทั่วโลกต่างพากันน่วม หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นในเซี่ยงไฮ้ลดลงเกือบ 8.50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันจันทร์ ซึ่งถือว่าหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2007 สร้างความหวั่นวิตกให้กับนักลงทุนทั่วโลก

บรรดาตลาดทุนของโลกต้องเจอกับการสูญเสียมูลค่ารวมแล้วราว 5 ล้านล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่จีนสร้างความประหลาดใจด้วยการลดค่าเงินหยวนเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ทั่วโลกหวั่นเกรงว่าชาติที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกนั้นอ่อนแอกว่าที่คิด

ราคาหุ้นจีนนั้นเคลื่อนไหวราวกับรถไฟเหาะ นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อพยุงตลาดหุ้น

ในบรรดามาตรการเหล่านั้น สิ่งที่ได้เห็นครั้งล่าสุดคือการที่จีนออกมาระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่า กองทุนบำนาญของรัฐจะเข้ามาลงทุนซื้อหุ้นในตลาด นอกจากนี้ในวันอังคารทางธนาคารกลางก็ได้อัดฉีดเงิน 150 พันล้านหยวนเข้าสู่ตลาดเงิน เพื่อคลายสภาวะการตึงตัวของสภาพคล่อง

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายระบุว่า ความล้มเหลวของมาตรการผ่อนคลายทางการเงินใหม่ๆ เหล่านี้ ได้ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ด้านค่าเงินดอลลาร์นั้นอยู่ที่ 119.15 เยนต่อดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดิม 118.51 เยนต่อดอลลาร์ในตลาดนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ แต่ก็ยังถือว่าอ่อนกว่าเมื่อวันศุกร์ที่เคยอยู่ที่ 122.06 เยนต่อดอลลาร์

ส่วนราคาน้ำมันเวสต์เทกซัส งวดส่งมอบเดือนตุลาคม มีการซื้อขายกันที่ 38.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากลงไปปิดที่ราคา 38.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ลงไปต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ นับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2009

ขณะที่ราคาน้ำมันเบรนต์ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ทำการซื้อขายกันที่ 43.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากลงไปปิดที่ราคา 43.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่มีนาคม 2009


กำลังโหลดความคิดเห็น