เอเจนซีส์ – ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดหลังผ่านศึกดีเบตรอบแรก พบว่า มหาเศรษฐีปากไม่มีหูรูด “โดนัลด์ ทรัมป์” ยังมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ในบรรดาผู้สมัครชิงตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2016 ขณะที่เจ้าตัวยังขู่กลาย ๆ ว่า พร้อมลาออกไปเป็นผู้สมัครอิสระทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจครั้งนี้ยังมี “สัญญาณเตือน” ถึงมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์วัย 69 ปี โดยพบว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งเริ่มรู้สึกอึดอัดและไม่พอใจการปราศรัยที่ก้าวร้าวของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
ผลสำรวจล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยซัฟฟอล์กในรัฐไอโอวา พบว่า ทรัมป์ ยังมีคะแนนนิยมมากเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 17 ตามมาด้วย สก็อตต์ วอล์กเกอร์ ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน ร้อยละ 12 และ ส.ว. มาร์โก รูบิโอ จากรัฐฟลอริดา ร้อยละ 10
ทางด้าน เจบ บุช ซึ่งเป็นบุตรชายคนเล็กของอดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช. ดับเบิลยู บุช และเป็นผู้สมัครที่มีชื่อเสียงที่สุดในแวดวงพรรครีพับลิกัน ถูกดันตกไปอยู่ที่อันดับ 7 ของตาราง ทั้งที่เคยอยู่เพียงอันดับที่ 3 จากการสำรวจโดย RealClearPolitics เมื่อเดือนที่แล้ว
ถึงคะแนนนิยมจะยังทิ้งห่างคู่แข่งอยู่พอสมควร แต่จากผลสำรวจโดยมหาวิทยาลัยซัฟฟอล์ก พบว่า ผู้ตอบคำถามร้อยละ 55 มองว่าการปราศรัยของ ทรัมป์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึก “อึดอัด” กับผู้สมัครรายนี้
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจล่าสุดของ ราสมุสเซน รีพอร์ตส ที่เผยแพร่วานนี้ (11) พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 17 ซึ่งลดลงอย่างมากจากร้อยละ 26 ที่สำรวจไปเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วน รูบิโอ และ บุช ครองอันดับ 2 เท่ากันด้วยคะแนนร้อยละ 10 ทว่า ยังนำ วอล์กเกอร์ กับ คาร์ลี ฟิโอรินา อดีตบอสบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่เอชพี อยู่เพียง 1 แต้มเท่านั้น
ผลโพลจากมหาวิทยาลัย แฟรงคลิน เพียร์ซ/ บอสตัน เฮรัลด์ ที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ พบว่า ทรัมป์ ยังกระแสแรงมาเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ร้อยละ 18 ทว่าผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 41 มองว่า เขาไม่มีมิติทางอารมณ์ที่เหมาะสมกับการเป็นประธานาธิบดี
ด้าน ทรัมป์ เองก็ออกมายืนยันสิ่งที่พูดไปกลางเวทีดีเบตเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (6) ว่า ยังไม่ปิดโอกาสลาออกไปเป็น “ผู้สมัครอิสระ” ซึ่งจะถือเป็นฝันร้ายสำหรับพรรครีพับลิกัน
“ผมยังไม่ปิดโอกาสทั้งนั้น” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์
“แม้ผมอยากจะสมัครในนามพรรครีพับลิกัน... แต่ก็พร้อมที่จะพิจารณาทางเลือกอื่น ถ้าหากผมได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม”
ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเมืองอเมริกันเตือนว่า หาก ทรัมป์ ลาออกไปเป็นผู้สมัครอิสระจะยิ่งเป็นหายนะสำหรับพรรครีพับลิกัน เพราะเท่ากับดึงคะแนนโหวตส่วนหนึ่งที่ควรจะเป็นของรีพับลิกันออกไป และนั่นหมายถึงการหยิบยื่นชัยชนะให้แก่ “ฮิลลารี คลินตัน” ผู้สมัครตัวเต็งจากพรรคเดโมแครต
คลินตัน ได้ออกมาตำหนิ ทรัมป์ ว่า “ทำเกินไป” จากกรณีที่เขาพูดเสียดสี เมกีน เคลลี ผู้สื่อข่าวหญิงฟ็อกซ์นิวส์ว่าตั้งคำถามยาก ๆ เพราะ “รอบเดือนมา”
เคลลี ได้รับเชิญเป็นพิธีกรคนหนึ่งในศึกดีเบตรอบแรกของพรรครีพับลิกัน และได้ตั้งคำถามที่มีชั้นเชิงกับ ทรัมป์ หลายข้อ โดยเฉพาะข้อที่ว่า เขาเคยเปรียบผู้หญิงเป็น “สุนัข” และ “หมูอ้วน” จริงหรือไม่
เพียง 1 วันให้หลัง ทรัมป์ ก็ไปให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า เคลลี “มีเลือดไหลออกมาจากทุกส่วนในร่างกาย” ซึ่งผู้ฟังส่วนใหญ่ตีความว่า เขากำลังถากถางเธอเรื่องมีประจำเดือน