เอเอฟพี - รัสเซียเริ่มการทำลายอาหารตะวันตกหลายร้อยตันในวันนี้ (6 ส.ค.) ซึ่งมีไล่ตั้งแต่ชีสชั้นเลิศไปจนถึงผลไม้และผักที่ถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศนี้ที่กำลังถูกวิกฤตรุมเร้าอยู่ โดยไม่แยแสกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงในสังคม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ลงนามคำสั่งกฤษฎีกาให้เผาอาหารทั้งหมดที่ฝ่าฝืนข้อห้ามนำเข้าสินค้าตะวันตก ซึ่งถูกบังคับใช้มาแล้ว 1 ปีเพื่อเป็นการตอบโต้มาตรคว่ำบาตรของตะวันตกจากกรณีวิกฤตยูเครน
“นับตั้งแต่วันนี้ ผลผลิตทางการเกษตร, ผลิตภัณฑ์ของสด และอาหารซึ่งมาจากประเทศที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับนิติบุคคลและปัจเจกบุคคลในรัสเซีย และที่ถูกห้ามไม่ให้นำเข้ามาในรัสเซียจะถูกทำลาย” กระทรวงเกษตรระบุในถ้อยแถลง
เมื่อปีที่แล้วมอสโคห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจำนวนมากจากตะวันตก ไล่ตั้งแต่ชีสชั้นเลิศอย่างพาร์เมซานไปจนถึงแฮมสเปนและสินค้าหลักอย่างแอปเปิล
รัสเซียแสดงความไม่พอใจที่ผู้นำเข้าบางรายกำลังหลีกเลี่ยงข้อห้ามดังกล่าวด้วยการแอบติดฉลากอาหารใหม่เพื่ออ้างว่าอาหารเหล่านี้ผลิตในประเทศอดีตสหภาพโซเวียตที่อยู่ข้างเคียง
หน่วยงานความปลอดภัยทางอาหารระบุว่า พวกเขาจะเริ่มการทำลายผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายหลายร้อยตันที่ยึดมาได้ในวันนี้ (6)
อาหารลักลอบน้ำเข้ามีกำหนดที่จะถูกเผาในแคว้นที่มีพรมแดนติดกับเบลารุส, คาซัคสถาน และยูเครน หน่วยงานดังกล่าว ระบุ
โฆษกหญิงของหน่วยงานดังกล่าวระบุว่า พวกเขาได้รับการอนุญาตให้ทำการเผาทำลายชีสหลายตันจากลัตเวียและมะเขือเทศที่สนามยิงปืนของกองทัพแล้ว
แหล่งข่าวในหน่วยงานนี้เตือนว่า พวกเจ้าหน้าที่ซึ่งเลือกที่จะ “ทำลาย” ชีสชั้นเลิศเหล่านี้ด้วยการรับประทานเสียเองจะถูกตั้งข้อหาทางอาญา หนังสือพิมพ์รายวัน อิซเวสเทีย ซึ่งมีจุดยืนนิยมเครมลิน รายงาน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นการทำให้อาหารเสียของโดยเปล่าประโยชน์ ในขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจและมาตรการคว่ำบาตรทำให้ประชาชนชาวรัสเซียล้านประสบกับความยากแค้นและทำให้พวกเขาหาอาหารพื้นฐานยังชีพได้ยากกว่าเดิม
“นี่ไม่ใช่มาตรการปกติที่ใครเขาทำกัน นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความไร้วัฒนธรรม , การท้าทายสังคม , การไม่ยอมที่จะเหลือบมองถึงด้านหลักจริยธรรม ซึ่งมันมีความสำคัญที่สุด” หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน เวโดมอสติ เขียนบทบรรณาธิการหน้าหนึ่ง
เมื่อเช้าวันนี้ (6) ชาวรัสเซียกว่า 258,000 คนได้ลงชื่อในคำร้องทางอินเตอร์เน็ตบนเว็บไซต์ Change.org เรียกร้องให้ทางการมอบอาหารเหล่านั้นให้กับผู้ที่ขาดแคลน
เกนนาดิ ซูกานอฟ หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งปกติแล้วจะคล้อยตามนโยบายเครมลิน ระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้น “สุดโต่งเกินไป” และเสนอให้ส่งอาหารเหล่านี้ให้กับบ้านเด็กกำพร้าและแคว้นของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน