xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : ญี่ปุ่นจัดพิธีรำลึก 70 ปีระเบิดปรมาณูถล่ม “ฮิโรชิมา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – ชาวญี่ปุ่นร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 70 ปีที่เมืองฮิโรชิมาถูกถล่มด้วยระเบิดปรมาณูเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (6 ส.ค.) ท่ามกลางกระแสถกเถียงที่ยังมีมาจนถึงปัจจุบันว่า การทำลายล้างครั้งใหญ่ที่ช่วยให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ปิดฉากลงเร็วขึ้นนั้นเป็นสิ่ง “สมควร” หรือไม่

นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ คณะผู้แทนต่างชาติ ตลอดจนประชาชนนับหมื่นคนที่ไปร่วมพิธีรำลึกซึ่งจัดขึ้น ณ อนุสรณ์สันติภาพเมืองฮิโรชิมา ต่างยืนสงบนิ่งในเวลา 8.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น (6.15 น. ตามเวลาในไทย) ซึ่งตรงกับเวลาที่ระเบิดถูกทิ้งลงจากเครื่องบิน B-29 “อีโนลา เกย์” และเปลี่ยนเมืองทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่นให้กลายเป็นขุมนรกทะเลเพลิง

คาซูมิ มัตซูอิ นายกเทศมนตรีเมืองฮิโรชิมา ออกมากล่าวย้ำว่า อาวุธนิวเคลียร์คือ “สิ่งชั่วร้ายที่สุด” พร้อมเรียกร้องให้ทั่วโลกยุติการใช้มันไปตลอดกาล

“เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เราจะต้องขจัดอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งเป็นสิ่งเลวร้ายและไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ที่สุดให้หมดไป ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มลงมือทำ”

วันที่ 6 สิงหาคม ปี 1945 เครื่องบิน B-29 ของสหรัฐฯ ได้นำระเบิดปรมาณู “ลิตเติล บอย” มาทิ้งเหนือเมืองฮิโรชิมา อานุภาพของระเบิดได้เผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีทำลายล้างของมัน และทำให้อุณหภูมิระดับพื้นดินพุ่งสูงถึง 4,000 เซลเซียส ซึ่งร้อนพอที่จะหลอมเหล็กให้ละลาย

ประเมินกันว่า ระเบิดปรมาณูลูกนั้นได้คร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นไปราว 140,000 คน รวมถึงผู้ที่รอดจากเหตุการณ์ในวันนั้น ทว่ามาเสียชีวิตในอีกหลายวันหรือหลายเดือนให้หลังด้วยพิษกัมมันตรังสี

ต่อมาในวันที่ 9 สิงหาคม เมืองท่านางาซากิก็ถูกทำลายด้วยระเบิดปรมาณูลูกที่สอง ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 70,000 คน

รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจยกธงขาวในวันที่ 15 สิงหาคม ปี 1945 ซึ่งเป็นการปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 ลงอย่างสมบูรณ์

นายกฯ อาเบะ ได้นำพวงหรีดไปวางที่หน้าอนุสรณ์สถาน โดยมี แคโรไลน์ เคนเนดี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น, โรส ก็อตเตมอลเลอร์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายควบคุมอาวุธ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อื่นๆ ร่วมเป็นสักขีพยาน

ทุกวันนี้นักวิจารณ์ยังมีความเห็นไม่ตรงกันว่า การทิ้งระเบิดปรมาณูทั้ง 2 ลูกเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการยุติสงครามจริงหรือไม่

นักประวัติศาสตร์บางคนชี้ว่า การสูญเสียที่ฮิโรชิมาและนางาซากิได้ช่วยชีวิตพลเมืองโลกอีกนับล้านๆ คนที่อาจจะต้องตายหากกองทัพญี่ปุ่นสามารถเดินตามแผนรุกรานที่วางไว้ ในขณะที่นักวิจารณ์บางรายกลับมองว่า การยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่จำเป็นต้องใช้ระเบิดปรมาณูเข้าช่วย เพราะถึงอย่างไรเสีย กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นก็มีแนวโน้มที่จะแพ้แน่นอนอยู่แล้ว

การถล่มญี่ปุ่นด้วยระเบิดปรมาณูซึ่งสหรัฐฯ พัฒนาขึ้นแบบลับสุดยอดได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากชาวอเมริกันในยุคนั้นที่เบื่อหน่ายสงคราม แม้จะผ่านมาแล้ว 70 ปี แต่คนอเมริกันส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อว่าสหรัฐฯ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

สำนักวิจัยพิวได้ทำการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พบว่าชาวอเมริกัน 56% เห็นด้วยกับการทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ญี่ปุ่นเมื่อ 70 ปีก่อน ในขณะที่ชาวเมืองปลาดิบ 79% ไม่เห็นด้วย

พอล ทิบเบตส์ นักบินซึ่งเป็นผู้ควบคุม “อีโนลา เกย์” เคยออกมาให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเมื่อปี 2002 ก่อนที่เขาจะถึงแก่กรรมในอีก 5 ปีต่อมาว่า เขาปล่อยระเบิดลงสู่เมืองฮิโรชิมาโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย “เพราะผมรู้ว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง”

สหรัฐฯ ซึ่งเปลี่ยนจากความเป็นศัตรูมาเป็นมิตรสนิทกับโตเกียวหลังสงครามสิ้นสุด ยังไม่เคยประกาศขออภัยอย่างเป็นทางการต่อโศกนาฏกรรมที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ











กำลังโหลดความคิดเห็น