เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ – หลังจาก 2 ปีผ่านไปของการร่วมลงรายชื่อของประชาชนสหรัฐฯจำนวนไม่ต่ำกว่า 167,000 คนยื่นร้องต่อรัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดี บารัค โอบามาผ่านเว็บไซต์ทำเนียบขาว “We the People” ขอให้อภัยโทษในความผิดทั้งหมดแก่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ NSA ผู้ซึ่งกระชากหน้ากากสหรัฐฯและการแอบลักลอบสอดแนมในระดับมหกรรมโลก เพื่อให้สโนว์เดน ซึ่งทำการลี้ภัยอยู่ในรัสเซีย สามารถเดินทางกลับประเทศได้อย่างไม่ต้องได้รับโทษ
RT สื่อรัสเซีย รายงานเมื่อวานนี้(28)ว่า ล่าสุดหลังจากมีการร่วมลงชื่อจำนวนสูงกว่า 167,000 คนจากฝั่งตะวันออกจรดฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2013 จากการริเริ่มของชาวโรเชสเตอร์ (Rochester) คนหนึ่งในรัฐนิวยอร์ก ไม่นานหลังจากมีการเปิดเผยชื่อผู้อยู่เบื้องหลังการป้อนข้อมูลโครงการสอดแนมลับ “ปริซึม” ของสำนักงานความมั่นคงสหรัฐฯ NSA ให้กับหนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ของอังกฤษ เพื่อร้องขอต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ผ่านเว็บไซต์ทำเนียบขาว “We the People” ให้สั่งการอภัยโทษในความผิดทั้งหมดตามกฎหมายสหรัฐฯแก่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เพื่อที่จะให้ชายผู้นี้ ที่เป็นเสมือนผู้กล้าปกป้องประชาชนอเมริกันจากการละเมิดสิทธิเสรีภาพตากฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯในสายตาคนบางส่วน เพื่อทำให้สามารถเดินทางกลับเข้ามาในอเมริกาได้โดยไม่ต้องรับการลงโทษตามกฎหมาย
หนึ่งในผู้ร่วมลงนามสนับสนุนการอภัยโทษเขียนว่า “เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนเป็นวีรบุรุษ และสมควรที่จะต้องให้ฮีโรของชาติได้รับอิสรภาพ และเสรีภาพจากความผิดทั้งมวงที่เกิดขึ้นด้วยการอภัยโทษต่อข้อกล่าวหาที่มีทั้งหมดในเรื่องการเปิดเผยความลับโครงการสอดแนม NSA”
สื่อสหรัฐฯรายงานว่า ลิซา โมนาโค (Lisa Monaco)ที่ปรึกษาด้านกระทรวงมาตุภูมิสหรัฐฯและความมั่นคง และต่อต้านการก่อการร้าย ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา เป็นตัวแทนจากรัฐบาลสหรัฐฯ “ตอบปฎิเสธ” หนังสือขออภัยโทษผ่านคลิปบนเว็บไซต์ทำเนียบขาว
ในแถลงการณ์ของโมนาโค เธอได้อ้างว่า ในขณะที่ตลอดมาสโนว์เดนได้อ้างว่ากระทำลงไปเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของชาวอเมริกัน แต่ในทางกลับกันชายผู้นี้กลับไม่ประพฤติตัวอย่างเหมาะสมด้วยการเปิดเผยความลับของทางราชการ
“แทนที่สโนว์เดนจะเลือกวิธีอย่างสร้างสรรคโดยการทำเรื่องร้องเรียนไปตามขั้นตอนตามปกติ แต่กลับกลายเป็นว่าอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยงาน NSA ผู้นี้กลับตัดสินใจที่เป็นอันตรายต่ออเมริกา โดยการ “ขโมยและเปิดเผยข้อมูลลับของรัฐบาลสหรัฐฯ” ซึ่งผลของการกระทำของสโนว์เดนทำให้เกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อความมั่นคงประเทศ และประชาชนสหรัฐฯที่ทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องประเทศนี้ไว้” โมนาโคกล่าวแถลงตอบคำร้องขออภัยโทษ
และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประเทศและต่อต้านก่อการร้ายให้กับโอบามายังกล่าวต่อไปว่า “และหากสโนว์เดนเชื่อมั่นว่า การกระทำของเขาใกล้เคียงกับ ” อารยะขัดขืน” หรือ civil disobedience แล้ว เขาควรกระทำเหมือนเฉกเช่นในสิ่งที่คนอื่นๆที่กระทำอาระขัดขืนต่อผู้ปกครองของคนเหล่านั้น ด้วยการ ท้าทายผู้มีอำนาจอย่างตรงไปตรงมาด้วยการแสดงความคิดเห็น การประท้วงอย่างสร้างสรรค์ และที่สำคัญที่สุดคือ “การยอมรับผลกรรมต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป” ซึ่งสโนว์เดนสมควรที่จะเดินทางกลับมาสหรัฐฯ และเผชิญหน้าต่อคณะลูกขุน ไม่ใช่ทำตัวเป็นอีแอบหลบอยู่เบื้องหลังการปกป้องของรัฐต่างชาติ และในเวลาเดี๋ยวนี้ สโนว์เดนกำลังวิ่งหนีจากผลกรรมที่เขาได้กระทำไว้”
RT รายงานเพิ่มเติมว่า ในเดือนมีนาคม สโนว์เดนเปิดเผยว่า เขาได้ติดต่อกับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อต่อรองขอประบวนการไต่สวนอย่างเป็นธรรม เพื่อที่จะทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเดินทางกลับสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล NSA ผู้นี้ยืนยันว่า จะยังไม่เดินทางกลับสหรัฐฯในระยะเวลาอันใกล้นี้ เพราะในขณะนั้นรัฐบาลสหรัฐฯไม่ตกลงทำตามข้อเสนอ
อย่างไรก็ตาม ช่องทางที่สโนว์เดนจะเดินทางกลับสู่แผ่นดินเกิดด้วยวิธีได้รับการอภัยโทษนั้น ได้รับการสนับสนุนจากทั้งอดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อีริก โฮลเดอร์ และอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ ผู้อื้อฉาวจากคดีลักลอบดักฟังวอเตอร์เกต
โดยคาร์เตอร์ได้ให้สัมภาษณ์ในเดือนมีนาคม 2014 ว่า ช่องทางการอภัยโทษสมควรที่จะอยู่บนโต๊ะเจรจาสำหรับสโนว์เดนที่หากเดินทางกลับเข้ามายังสหรัฐฯ และต้องได้รับการพิพากษาในคดีการเผยแพร่ความลับของรัฐบาลสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เขาไม่ได้ทำให้สหรัฐฯตกอยู่ในอันตราย เหมือนกับที่ข้อมูลตามที่ประธานาธิบดีโอบามาได้รับ
และคาร์เตอร์ยังกล่าวต่อว่า “หากสโนว์เดนถูกตัดสินโทษผิดจริง และได้รับโทษขั้นประหารชีวิต ถ้าเป็นผมคงจะพิจารณาข้อเสนอการอภัยโทษ เพราะเมื่อพิจารณาจากคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีใครสามารถได้รับการอภัยโทษ หากปราศจากการขึ้นศาลไต่สวนความผิดและตัดสิน”