เอเอฟพี – หัวหน้าสจวร์ตสายการบิน โคเรียน แอร์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลนิวยอร์ก เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่ถูกบุตรสาวประธานสายการบินแห่งชาติเกาหลีใต้ “ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ” จากกรณี “ถั่ววีนแตก” ที่ตกเป็นข่าวเกรียวกราวทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว
สำเนาเอกสารคำร้องที่สำนักข่าวเอเอฟพีได้มาวันนี้(24 ก.ค.) อ้างถึงความเจ็บปวดที่หัวหน้าพนักงานต้อนรับ พัค ชาง-จิน ได้รับจากการกระทำของ โช ฮยุน-อา บุตรสาวคนโตของประธานโคเรียนแอร์ ซึ่งขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นซีอีโอดูแลด้านการบริการภายในเครื่องบิน
โช ถูกระบุเป็นจำเลยแต่เพียงผู้เดียว ในเอกสารคำร้องที่ฝ่ายโจทก์ยื่นต่อศาลสูงสุดนิวยอร์กเมื่อวันพุธ(22)
เหตุการณ์อื้อฉาวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมปีที่แล้ว ขณะที่เที่ยวบินโคเรียนแอร์ เส้นทางนิวยอร์ก-โซล ได้เคลื่อนตัวออกจากอาคารเทียบเครื่องบินภายในสนามบิน จอห์น เอฟ. เคนเนดี และกำลังแท็กซี่ไปบนรันเวย์เพื่อเตรียมทะยานขึ้นฟ้า
โช ซึ่งนั่งอยู่ในชั้นเฟิร์สคลาสเกิดอาการโมโหอย่างรุนแรง เมื่อพนักงานต้อนรับคนหนึ่งนำถั่วแมคคาเดเมียมาเสิร์ฟให้เธอทั้งถุง โดยไม่เทใส่ถ้วยตามระเบียบที่ถูกต้อง
ฝ่ายโจทก์อ้างว่า โช ได้เรียก พัค ที่เป็นหัวหน้าสจวร์ตมาตำหนิ และใช้หนังสือคู่มือการบริการทุบเขาใส่หลายครั้งจนเกิดรอยฟกช้ำ มีเลือดออก และ “กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง”
“โช ไม่ยังยอมหยุดทุบตีเขา ทั้งที่ฝ่ายโจทก์ได้ร้องขอความเมตตา” เอกสารคำร้องระบุ
แพทย์ที่รักษา พัค วินิจฉัยว่า คนไข้มีอาการหวาดผวาอย่างรุนแรงหลังจากถูก โช ทุบตี และต้องใช้เวลาฟื้นฟูสภาพจิตใจ 1 ปีเป็นอย่างน้อย
โช ยังใช้อำนาจผู้บริหารขับไล่หัวหน้าสจวร์ตลงจากเครื่องบิน ส่งผลให้กัปตันต้องนำเครื่องวกกลับไปจอดที่เกตใหม่ และทำให้เที่ยวบินนี้ถึงกรุงโซลล่าช้ากว่ากำหนด
สำนักงานสวัสดิการและการชดเชยแรงงานแห่งเกาหลี ระบุว่า คดีของ พัค เข้าข่ายเป็น “ความเสียหายจากอุตสาหกรรม” (industrial injury)
คิม โด-ฮี พนักงานโคเรียนแอร์ซึ่งเป็นผู้เสิร์ฟถั่วให้แก่ โช ก็ได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อศาลนิวยอร์กเช่นกัน โดยอ้างว่า โช ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ และตะคอกใส่เธอด้วยวาจาที่หยาบคาย จากนั้นก็บีบบังคับให้เธอปกปิดเรื่องนี้ และให้แจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนของรัฐบาลเกาหลีใต้ด้วย
ศาลเกาหลีใต้ได้พิพากษาจำคุก โช เป็นเวลา 1 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฐานละเมิดกฎหมายความปลอดภัยด้านการบิน แต่เธอก็ได้รับอิสรภาพในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากศาลสูงกรุงโซลวินิจฉัยลดโทษจำคุกเหลือเพียง 10 เดือน โดยรอลงอาญา 2 ปี
เหตุการณ์ซึ่งทั่วโลกให้ฉายาว่า “ถั่ววีนแตก” (nut rage) ทำให้ชาวแดนกิมจิยิ่งรู้สึกโกรธแค้นพวกเศรษฐีที่เป็นเจ้าของบริษัทผูกขาดขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า “แชโบล” ซึ่งนอกจากจะมีอิทธิพลครอบงำเศรษฐกิจแล้ว ยังทำให้เกิดช่องว่างรายได้ในสังคมเกาหลีใต้ด้วย