เอเอฟพี – ลูกสาวของประธานสายการบิน “โคเรียนแอร์” วันนี้ (14 ธ.ค.) เดินทางไปรอพบหัวหน้าพนักงานต้อนรับถึงบ้าน เพื่อขอโทษที่เคยตะโกนไล่เขาลงจากเครื่อง เพราะลูกเรือเสิร์ฟถั่วไม่เรียบร้อย ขณะที่เธอถูกกล่าวหาว่า เป็นคนบังคับให้เขาคุกเข่าอ้อนวอนให้เธอยอมยกโทษ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (9) โช ฮยุนอา อดีตผู้บริหารระดับสูงของสายการบินโคเรียนแอร์ ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในสายการบินประจำชาติเกาหลี ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวเธอ ในช่วงที่ถูกสาธารณชนประณามอย่างรุนแรง และทางการโสมขาวเปิดฉากสอบสวนกรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้น
เมื่อวันที 5 ธันวาคม โช ในวัย 40 ปีได้สั่งให้นักบินนำเครื่องกลับไปจอดเทียบอาคารผู้โดยสารใหม่ เพื่อไล่หัวหน้าพนักงานต้อนรับลงจากเครื่อง หลังมีลูกเรือคนหนึ่งนำถั่วแมคคาเดเมียมาเสิร์ฟให้ทั้งที่เธอไม่ได้สั่ง ทั้งยังเสิร์ฟทั้งห่อ แทนที่จะเทใส่ถ้วยตามคู่มือบริการที่สายการบินกำหนดไว้
พัค ชางจิน หัวหน้าพนักงานต้อนรับเล่าว่า โช ซึ่งนั่งชั้นเฟิร์สต์คลาสสั่งให้เขาและลูกเรือหญิงคนดังกล่าวคุกเข่า แล้วเรียกชื่อจริงของพัค ก่อนจะผลักเขาไปติดประตูห้องนักบิน แล้วใช้หนังสือคู่มือบริการกระทุ้งเขา
โฆษกของสายการบินกล่าวกับเอเอฟพีว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (14) โชได้แวะไปที่บ้านของพนักงานทั้งสองเพื่อกล่าวขอโทษเป็นการส่วนตัว แต่เนื่องจากไม่มีใครอยู่ที่บ้าน เธอจึงทิ้งกระดาษโน้ตขอโทษไว้ที่ประตูบ้านของลูกเรือ
โช ยืนกรานว่า เธอไม่ได้บังคับให้ทั้งสองคนคุกเข่า “ดิฉันไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนั้น ดิฉันไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าเลย” ภายหลังถูกผู้สื่อข่าวสอบถามว่า สิ่งที่พัคกล่าวหาเธอ ระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เคบีเอสของเกาหลีใต้ว่าเป็นความจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารอีกคนหนึ่งในชั้นเฟิร์สต์คลาสยืนยันว่า สิ่งที่พัคพูดส่วนใหญ่เป็นความจริง และยืนยันว่า ลูกเรือทั้งสองคุกเข่าจริง
วานนี้ (13) ผู้โดยสารคนนี้ระบุกับเคบีเอส หลังเข้าพบอัยการเกาหลีโซล เพื่อให้การต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ดิฉันรู้สึกเสียใจกับลูกเรือทั้งสองคนมาก พวกเขาดูกลัวเธอเหลือเกิน”
ผู้โดยสารคนนี้กล่าวว่า “เสียงโชดังมากจนผู้โดยสารชั้นประหยัดหันมามอง” พร้อมกับเล่าว่า บรรยากาศบนเที่ยวบินที่กินเวล่านาน 14 ชั่วโมง “ดูน่ากลัวและตึงเครียดมาก”
พัคกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เคบีเอสว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นน่าอับอายขายหน้าอย่างรุนแรง “คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า มันน่าอับอายขายหน้าขนาดไหนถ้าไม่ได้เจอกับตัวเอง”
“เธอบอกว่า ‘ติดต่อ (กับหน่วยควบคุมการจรจาจรทางอากาศ) เดี๋ยวนี้เพื่อหยุดเครื่องบิน ฉันจะไม่ให้เครื่องบินลำนี้เอาเครื่องขึ้น’ แล้วผมจะแข็งขืนไม่ทำตามลูกสาวเจ้าของ (สายการบิน) ในสถานการณ์แบบนั้นได้อย่างไร”
นอกจากนี้ พัคเผยว่า ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา พนักงานของสายการบินโคเรียนแอร์ได้กดดันให้เขารับผิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะที่สายการบินไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว
พฤติกรรมของโช ได้เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในเกาหลีใต้ โดยเธอถูกกล่าวหาว่า ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ และหยิ่งยโส ทางด้านกระทรวงคมนาคมและอัยการกรุงโซลกำลังเปิดฉากสอบสวนว่า เธอละเมิดกฎหมายความปลอดภัยทางการบิน และเป็นอุปสรรคต่อกิจการหรือไม่
เมื่อวันศุกร์ (12) โช ยางโฮ ประธานบริหารของโคเรียนแอร์ ได้ออกมาขอโทษขอโพยสาธารณชนผ่านทางโทรทัศน์ต่อ “การกระทำอันโง่เขลา" ของลูกสาว
เขากล่าวว่า “ผมผิดเองที่อบรมสั่งสอนเธอมาไม่ดี”
เหตุการณ์นี้ที่โลกสังคมออนไลน์ขนานนามว่า “นัทเกต” ได้จุดชนวนให้เกิดความขุ่นเคืองต่อครอบครัวของผู้ลากมากดีที่บริหารกลุ่มธุรกิจอันทรงอิทธิพลในเกาหลีใต้
ครอบครัวผู้ก่อตั้งกิจการยักษ์ใหญ่เหล่านี้กลายเป็นที่นับหน้าถือตาในฐานะผู้นำพาประเทศไปสู่ความเจริญมานานหลายทศวรรษ แต่บ่อยครั้งพวกเขาก็ตกเป็นข่าวว่า ใช้อำนาจในทางที่ผิด
บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ดองอา อิลโบฉบับวานนี้ระบุว่า (13) “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (กับสายการบิน) เผยให้เห็นถึงด้านมืดของวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งไม่มีใครกล้าหือกับครอบครัวเจ้าของบริษัท เมื่อพวกเขาแสดงพฤติกรรมผิดๆ”
“เจ้าของเหล่านี้จำเป็นต้อง...อบรมสั่งสอนลูกหลานให้ดี และควบคุมไม่ให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองมีอภิสิทธิ์”