เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เหล่าผู้บริหารระดับสูงของโตชิบามีความเกี่ยวข้องกับการรายงานผลกำไรเกินจริงอย่างเป็นระบบกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คณะกรรมการอิสระเปิดเผยในวันจันทร์ (20 ก.ค.) ข้อบ่งชี้ที่กัดกร่อนหนึ่งในบริษัทชื่อดังของญี่ปุ่นแห่งนี้
คาดหมายว่า นายฮิซาโอะ ทานากะ ซีอีโอของโตชิบา คอร์ป และผู้สืบทอดของเขาจะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการยัดไส้ตัวเลขผลกำไรครั้งนี้ หลังเหล่าคณะกรรมการสืบสวนพบความผิดปกติทางบัญชีช่วงหลายปีที่ผ่านมา ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2008
คณะกรรมการตรวจสอบจากภายนอกซึ่งนำโดยอดีตอัยการโตเกียว อธิบายสถานกาณ์วัฒนธรรมองค์กรแห่งนี้ว่า พวกลูกน้องไม่สามารถคัดคานเหล่าบอสทรงอำนาจที่มีเจตนาเพิ่มพูนผลกำไรของบริษัทไม่ว่ายังไงก็ตาม
“ความผิดปกติทางบัญชีเป็นการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ผลจากการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร ที่ทรยศความเชื่อมั่นของเหล่าผู้ถือหุ้นจำนวนมาก โตชิบามีวัฒนธรรมองค์กรซึ่งไม่สามารถคัดค้านการตัดสินใจด้านการบริหารได้” รายงานสรุปผลการสืบสวนที่เผยแพร่โดยบริษัทระบุ ก่อนหน้าที่จะมีการเผยแพร่ฉบับสมบูรณ์ในวันอังคาร (21 ก.ค.)
กลุ่มบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นได้ว่าจ้างคณะกรรมการจากภายนอกเข้าตรวจสอบการทำบัญชีที่ผ่านๆมา ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแหล่งข่าวเปิดเผยว่ามันนำไปสู่การมีผลกำไรเกินจริงถึง 3 เท่า
แหล่งข่าวดังกล่าวเผยด้วยว่า คณะผู้สืบสวนกำลังตรวจสอบถึงบทบาทของเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่อความเกี่ยวข้องกับความผิดปกตินี้ โดยมุ่งเน้นไปยังคำถามที่ว่าพวกเขารูู้เห็นเกื้อหนุนการทุจริตหรือไม่
เรื่องอื้อฉาวทางบัญชีของโตชิบา เริ่มตั้งขึ้นเมื่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ตรวจพบความผิดปกติขณะที่พวกเขาดำเนินการตรวจสอบบัญชีงบดุลของทางบริษัทเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา และรายงานผลการค้นพบเมื่อวันจันทร์ (20 ก.ค.) นั่นหมายความว่า โตชิบาต้องแถลงผลประกอบการระหว่างเดือนเมษายน 2008 ถึงมีนาคม 2014 ใหม่ จากเดิมที่มีกำไร 151,800 ล้านเยน อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามันครอบคลุมถึงปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2015 ด้วยหรือไม่
ในฐานะบริษัทผู้ผลิตโทรทัศน์และเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังของโลก โตชิบามีพนักงานมากกว่า 200,000 คนทั่วโลก ขณะที่หน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการรายงานผลกำไรเกินจริงก็มีธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน สื่อโสตทัศน์ และธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์
คาดหมายว่านายทานากะจะลาออกแสดงความรับผิดชอบในวันอังคาร (21 ก.ค.) ส่วนนายโนริโอ ซาซากิ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานของโตชิบาระหว่างเดือนมิถุนายน 2009 และมิถุนายน 2013 ช่วงเวลาที่เหตุอื้อฉาวเกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ก็จะสละเก้าอี้เช่นกัน “ผมขอโทษอย่างจริงใจต่อเหล่าผู้ถือหุ้นและผู้ถือประโยชน์ร่วมอื่นๆทั้งหมด และขอรับประกันกับทุกคนว่าเราจะใช้ความพยายามทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูศรัทธาของพวกท่าน” นายทานากะระบุในถ้อยแถลง
การค้นพบที่น่าอับอายครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์ หลังจากญี่ปุ่นเพิ่งบังคับใช้กฎหมายบรรษัทภิบาลที่เฝ้ารอมานาน ด้วยฝ่ายสนับสนุนหวังว่ามันจะนำทางไปสู่ยุคสมัยใหม่แห่งความโปร่งใสเพื่อเหล่าผู้ถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา หุ้นของโตชิบาร่วงลงมาแล้วกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางคำถามเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับขอบเขตของปัญหานี้และใครที่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ