เอเอฟพี - ฮิลลารี คลินตัน ตัวเก็งผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ประกาศกร้าววานนี้ (14 ก.ค.) ว่าอิหร่านจะไม่มีโอกาสได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ หากเธอได้รับเลือกเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนต่อไป
คำแถลงของคลินตันมีขึ้นในขณะที่สภาคองเกรสและประเทศพันธมิตรของอเมริกาทั่วโลกต่างวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ที่ P5+1 และเตหะรานผลักดันจนสำเร็จลุล่วง โดยมองว่าสหรัฐฯ กำลังเปิดทางให้อิหร่านบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง เพียงแต่ยื้อเวลาให้ช้าออกไปเท่านั้น
“ในฐานะประธานาธิบดี ดิฉันจะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่เรามีเพื่อกระตุ้นให้อิหร่านต้องยอมปฏิบัติตาม” คลินตัน ซึ่งเป็นทั้งอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และอดีตสตรีหมายเลข 1 ระบุ
“สารที่เราส่งถึงอิหร่านจะต้องดังและชัดเจน เราจะไม่ยอมให้คุณครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ไม่ใช่แค่ตลอดอายุของข้อตกลงฉบับนี้เท่านั้น แต่ไม่มีวันเลย”
คลินตันยอมรับว่าเธอยัง “อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด” ของแผนควบคุมนิวเคลียร์อิหร่าน แต่ก็ยินดีสนับสนุนแนวทางของประธานาธิบดีบารัค โอบามา
“จากรายงานสรุปที่ดิฉันได้รับและการอ่านทบทวนเอกสารต่างๆ ดิฉันสนับสนุนข้อตกลงนี้ เพราะมันมีส่วนช่วยให้เราสามารถป้องกันไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์สำเร็จ”
“หากมีการบังคับใช้อย่างเข้มงวด มีการตรวจสอบอย่างเอาจริงเอาจัง และมีบทลงโทษที่รวดเร็วเมื่ออิหร่านละเมิดสัญญา ข้อตกลงฉบับนี้ก็จะทำให้สหรัฐฯ อิสราเอล และหุ้นส่วนในโลกอาหรับอยู่กันอย่างปลอดภัยมากขึ้น”
อิหร่านและมหาอำนาจ 6 ชาติ ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ จีน รัสเซีย บวกเยอรมนี สามารถทำความตกลงด้านนิวเคลียร์กันได้ในวันอังคาร (14 ) เป็นการปิดฉากการเจรจามาราธอนยาวนานกว่าทศวรรษด้วยข้อตกลงซึ่งน่าจะพลิกโฉมภูมิภาคตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ดี คลินตันเตือนว่า การลงนามข้อตกลงเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่การบังคับใช้
“ประชาคมโลกได้ประจักษ์ถึงพฤติกรรมของอิหร่านตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการบังคับใช้ข้อตกลงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด”
“การลงนามเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ในฐานะประธานาธิบดี ดิฉันจะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่เรามีเพื่อกระตุ้นให้อิหร่านต้องยอมปฏิบัติตาม”