เหล่าผู้นำโลกพากันออกมายกย่องข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านฉบับสมบูรณ์ในวันอังคาร(14ก.ค.) ด้วยประธานาธิบดีบารัค โอบามา บอกว่ากำลังแลเห็นทิศทางใหม่และวลาดิมีร์ ปูติน ชี้เป็นเสียงถอนหายใจแห่งการผ่อนคลายเฮือกใหญ่ของโลก
หนุ่มสาวชาวอิหร่านออกมาร้องเพลง เต้นรำบนท้องถนนสายต่างๆในกรุงเตหะราน ส่วนผู้ขับขี่ก็บีบแตรดังสนั่น ส่งเสียงเชียร์ข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งประวัติศาสตร์กับชาติมหาอำนาจ ด้วยพวกเขาหวังว่ามันจะช่วยสิ้นสุดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่บังคับใช้มานานาหลายปีและถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติมาหลายทศวรรษ
เหล่าชาติมหาอำนาจของโลกที่บรรลุข้อตกลงกับเตหะราน พูดเป็นเสียงเดียวกัน แสดงความหวังว่านับตั้งแต่นี้อิหร่านจะสร้างโอกาสแห่งการเริ่มเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ อย่างไรก็ตามนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แย้มว่าเขายังพร้อมออกคำสั่งปฏิบัติการทางทหารต่อที่ตั้งทางนิวเคลียร์ต่างๆของเตหะราน
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหัฐฯ ระบุข้อตกลงดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสปรับแก้ความสัมพันธ์ที่ระคายเคืองกับอิหร่านเสียใหม่ "ทุกเส้นทางแห่งการมุ่งสู่อาวุธนิวเคลียร์ถูกตัดแล้ว" เขากล่าว "ข้อตกลงนี้นำเสนอโอกาสมุ่งสู่ทิศทางใหม่ เราควรคว้ามันไว้"
ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยกย่องข้อตกลงดังกล่าวว่าเป็นทางเลือกที่มั่นคงสำหรับเสถียรภาพและความร่วมมือ "โลกหายใจด้วยความปลดเปลื้องเฮือกใหญ่" พร้อมบอกว่ามอสโกจะทำทุกทางในขอบเขตของอำนาจเพื่อรับประกันว่าข้อตกลงนี้ได้ผล ส่วนนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ เสริมว่าข้อตกลงนี้จะช่วยทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางผาสุกยิ่งขึ้น
ด้านนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษบอกว่าข้อตกลงนี้จะช่วยให้โลกปลอดภัยยิ่งขึ้นและตอนนี้ อิหร่าน มีโอกาสที่แท้จริงที่จะได้รับประโยชน์จากการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุโลกกำลังก้าวไปข้างหน้าและเรียกร้องอิหร่านช่วยชาติมหาอำนาจยุติความขัดแย้งในซีเรีย "ตอนนี้อิหร่านจะมีความสามารถทางการเงินมากขึ้น ในขณะที่จะไม่มีมาตรการคว่ำบาตรอีกต่อไปแล้ว เราต้องระมัดระวังอย่างที่สุดต่อสิ่งที่อิหร่านจะเป็นไปนับแต่นี้"
หนุ่มสาวชาวอิหร่านออกมาร้องเพลง เต้นรำบนท้องถนนสายต่างๆในกรุงเตหะราน ส่วนผู้ขับขี่ก็บีบแตรดังสนั่น ส่งเสียงเชียร์ข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งประวัติศาสตร์กับชาติมหาอำนาจ ด้วยพวกเขาหวังว่ามันจะช่วยสิ้นสุดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่บังคับใช้มานานาหลายปีและถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติมาหลายทศวรรษ
เหล่าชาติมหาอำนาจของโลกที่บรรลุข้อตกลงกับเตหะราน พูดเป็นเสียงเดียวกัน แสดงความหวังว่านับตั้งแต่นี้อิหร่านจะสร้างโอกาสแห่งการเริ่มเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ อย่างไรก็ตามนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แย้มว่าเขายังพร้อมออกคำสั่งปฏิบัติการทางทหารต่อที่ตั้งทางนิวเคลียร์ต่างๆของเตหะราน
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหัฐฯ ระบุข้อตกลงดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสปรับแก้ความสัมพันธ์ที่ระคายเคืองกับอิหร่านเสียใหม่ "ทุกเส้นทางแห่งการมุ่งสู่อาวุธนิวเคลียร์ถูกตัดแล้ว" เขากล่าว "ข้อตกลงนี้นำเสนอโอกาสมุ่งสู่ทิศทางใหม่ เราควรคว้ามันไว้"
ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยกย่องข้อตกลงดังกล่าวว่าเป็นทางเลือกที่มั่นคงสำหรับเสถียรภาพและความร่วมมือ "โลกหายใจด้วยความปลดเปลื้องเฮือกใหญ่" พร้อมบอกว่ามอสโกจะทำทุกทางในขอบเขตของอำนาจเพื่อรับประกันว่าข้อตกลงนี้ได้ผล ส่วนนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ เสริมว่าข้อตกลงนี้จะช่วยทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางผาสุกยิ่งขึ้น
ด้านนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษบอกว่าข้อตกลงนี้จะช่วยให้โลกปลอดภัยยิ่งขึ้นและตอนนี้ อิหร่าน มีโอกาสที่แท้จริงที่จะได้รับประโยชน์จากการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุโลกกำลังก้าวไปข้างหน้าและเรียกร้องอิหร่านช่วยชาติมหาอำนาจยุติความขัดแย้งในซีเรีย "ตอนนี้อิหร่านจะมีความสามารถทางการเงินมากขึ้น ในขณะที่จะไม่มีมาตรการคว่ำบาตรอีกต่อไปแล้ว เราต้องระมัดระวังอย่างที่สุดต่อสิ่งที่อิหร่านจะเป็นไปนับแต่นี้"