รอยเตอร์/เอเอฟพี - รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ยุโรปเผยแบงก์ใหญ่บางแห่งของกรีซอาจต้องปิดตัวลงและถูกเทกโอเวอร์โดยคู่แข่งที่มีความเข้มแข็งกว่า ส่วนหนึ่งในแผนปฏิรูปภาคธนาคารที่จะมีขึ้นตามหลังเอเธนส์ได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน ความเห็นซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่กระทรวงการคลังกรีซ เผยว่า คงต้องปิดธนาคารไปจนถึงวันจันทร์หน้า (13 ก.ค.) ระหว่างที่รัฐบาลเร่งจัดทำข้อเสนอใหม่ไปยื่นต่อเหล่าเจ้าหนี้ ในความพยายามนาทีสุดท้ายเพื่อหลีกเลี่ยงออกจากยูโรโซน
เหล่าผู้นำยุโรปจะรวมตัวกันในวันอาทิตย์ (12 ก.ค.) ในความพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อบรรลุข้อตกลงกับกรีซ ตามหลังการเจรจาอันเผ็ดร้อนที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน ซึ่งผลักให้ประเทศแห่งนี้มุ่งสู่ขอบเหวแห่งการออกจากยูโร
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยุโรปหลายคนที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามให้ความเห็นกับรอยเตอร์ ว่า ไม่ว่าจะสามารถปลดล็อกเงินช่วยเหลือใหม่สำหรับรัฐบาลได้หรือไม่ บางทีธนาคารบางแห่งของกรีซที่ได้รับความเสียหายจากหายนะทางการเมืองและเศรษฐกิจ อาจต้องปิดตัวลงและควบรวมกิจการกับธนาคารคู่แข่งที่มีความเข้มแข็งกว่า
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งบอกว่าธนาคารรายใหญ่ 4 แห่งของกรีซ ได้แก่ เนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ, ยูโรแบงก์, พิเรอุสแบงก์ และ อัลฟาแบงก์ อาจถูกลดเหลือแค่ 2 แห่ง มาตรการที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะถูกต่อต้านอย่างดุเดือดในเอเธนส์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อีกคนบอกว่าแม้มาตรการควบรวมธนาคารเป็นสิ่งจำเป็น ต้องมันอาจเกิดขึ้นในระยะยาวมากกว่า “เศรษฐกิจกรีซอยู่ในภาวะพังทลาย นั่นหมายความว่า ธนาคารต่าง ๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่” พร้อมระบุว่า มาตรการฉับพลันตามหลังข้อตกลงช่วยเหลือใด ๆ ระหว่างเอเธนส์ กับยูโรโซนเป็นสิ่งจำเป็น และยกไซปรัส เป็นกรณีต้นแบบ
ระบบการเงินของกรีซ คือ แก่นกลางของวิกฤตปัจจุบัน จากการไหลออกไม่หยุดของเงินฝาก ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลซ้ายจัดของนายอเล็กซิส ซีปราส แห่งเอเธนส์กับเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศเสื่อมทรามลง
หลังจากเอเธนส์ผิดนัดชำระหนี้ต่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ก็ได้ระงับการให้เงินทุนฉุกเฉินแก่ธนาคารในกรีซ กระตุ้นให้เอเธนส์ต้องประกาศปิดธนาคารชั่วคราวและจำกัดการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มไม่เกิน 60 ยูโรต่อวัน
การตัดสินใจของผู้มีสิทธิออกเสียงชาวกรีซ ที่ลงประชามติปฏิเสธข้อเสนอช่วยเหลือตามเงื่อนไขของเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ กระตุ้นให้อีซีบี ประกาศว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านอัดฉีดสภาพคล่องแก่ธนาคารกรีซต่อไปในอัตราคงเดิม นั่นหมายความว่าธนาคารต่างๆจะหมดเงินสดเร็ว ๆ นี้
จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ในวันพุธ (8 ก.ค.) กระทรวงการคลังของกรีซ เปิดเผยว่า ธนาคารต่าง ๆของเอเธนส์จะปิดบริการต่อไปจนถึงวันจันทร์หน้า (13 ก.ค.) ระหว่างที่รัฐบาลเร่งจัดทำข้อเสนอใหม่ไปยื่นต่อเหล่าเจ้าหนี้ ในความพยายามนาทีสุดท้ายเพื่อหลีกเลี่ยงออกจากยูโรโซน
“วันหยุดธนาคารจะถูกขยายออกไปจนถึงวันที่ 13 กรกฎาคม” กระทรวงการคลังระบุในถ้อยแถลง และแหล่งข่าวในกระทรวงบอกกับเอเอฟพีว่ามาตรการจำกัดการถอนเงินจะถูกคงไว้ตามเดิมเช่นกัน
ธนาคารต่าง ๆ ของกรีซปิดทำการมาตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน พร้อมกับจำกัดการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มสำหรับชาวกรีกที่ 60 ยูโรต่อวัน เพื่อปัดเป่าปัญหาขาดสภาพคล่อง หลังจากรัฐบาลประกาศจัดลงประชามติต่อเงื่อนไขกู้ยืมที่เสนอโดยเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ และผลออกมาก็คือชาวกรีซโหวตต่อต้านข้อเสนอดังกล่าว ฉุดความสัมพันธ์ระหว่างเอเธนส์กับคู่หูยุโรให้ตึงเครียดหนักเข้าไปอีก
ในวันพุธ (8 ก.ค.) นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส ไปกล่าวปราศรัยต่อรัฐสภายุโรป รับปากว่า เอเธนส์จะยื่นข้อเสนอที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับแผนการคลี่คลายวิกฤตหนี้สินของตนที่มีรายละเอียดครบถ้วนภายในคืนวันพฤหัสบดี (9) และหากผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมาธิการยุโรป อันเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (อียู), ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และ ไอเอ็มเอฟ อนุมัติข้อเสนอดังกล่าว เหล่ารัฐมนตรีคลังยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป) จะประชุมกันในวันเสาร์ (11) เพื่อเสนอแนะให้เปิดการเจรจาแพกเกจเงินกู้กับเอเธนส์ แล้วจึงตามด้วยการประชุมสุดยอด 28 ชาติอียู ในวันอาทิตย์ (12) เพื่ออนุมัติแผนการช่วยเหลือ
ทั้งนี้ พวกผู้นำยูโรโซนกล่าวเตือนในคืนวันอังคารว่า วันอาทิตย์ (12) เป็น “เส้นตายสุดท้าย” ที่จะต้องบรรลุข้อตกลงกันให้ได้ และช่วยให้กรีซรอดพ้นจากภาวะล้มละลาย