เอเอฟพี - สหภาพยุโรปตำหนิไทยเรื่องการตั้งข้อหาปลุกระดมให้แก่กลุ่มนักศึกษาที่ต่อต้านรัฐประหาร โดยระบุว่าการจับกุมและดำเนินคดีพวกเขาในศาลทหารนั้นเป็นการขัดขวางการพัฒนา
กลุ่มนักศึกษาทั้ง 14 คนถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากทำการประท้วงที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 1 วันก่อนหน้าการจับกุม โดยถูกตั้งข้อหาปลุกระดม ซึ่งเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติและอาจถูกจำคุกนานถึง 7 ปี
“การจับกุมนักศึกษาทั้ง 14 ราย โดยมีการตั้งข้อหากับพวกเขาทั้งที่ประท้วงอย่างสงบนั้นถือเป็นการขัดขวางการพัฒนา” อียูระบุในคำแถลงที่เผยแพร่ในวันอังคาร
“การเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพพื้นฐานนั้นเป็นสิ่งที่จะต้องส่งเสริมให้ความสำคัญ นอกจากนี้ศาลทหารก็ไม่ควรถูกนำมาใช้พิจารณาคดีพลเรือน” คำแถลงระบุ
ก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้ออกคำแถลงเรียกร้องให้ประเทศไทยยกเลิกการตั้งข้อหา พร้อมกับปล่อยนักศึกษากลุ่มนี้จากการคุมขัง
นักศึกษากลุ่มนี้มีโอกาสถูกควบคุมตัวไว้โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นานถึง 84 วันก่อนที่จะมีการพิจารณาคดี อย่างไรก็ตาม การคุมขังพวกเขาจะได้รับการทบทวนในทุกๆ 12 วันโดยศาล ซึ่งการพิจารณาครั้งหน้าของศาลทหารคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้