ASTVผู้จัดการออนไลน์ - (ล่าสุด) “ดรีมทีม เน็ตเวิร์ค” ผู้ผลิตข่าว - รายการ ป้อนช่อง 5 และ ทีวีดิจิตอล แจงเลิกจ้าง 4 พนักงานบริษัท หลังไปชุมนุมต้านรัฐประหาร เผยให้นโยบายไปแล้ว ช่วงที่มีกฎหมายพิเศษไม่ต้องการให้ไปละเมิดกฎหมาย ยันเยียวยาตามกฎหมายแรงงาน อีกกลุ่มหนึ่งเลิกจ้างเพราะปรับลดขนาดองค์กร เหตุยุติผลิตรายการให้ทีวีดิจิตอลบางช่อง
วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 19.00 น. แหล่งข่าวจากผู้บริหาร บริษัท ดรีมทีม เน็ตเวิร์ค จำกัด รายหนึ่ง ชี้แจงกับ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ถึงกรณีที่ น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง อดีตโปรดิวเซอร์รายการของบริษัท ระบุว่า ตน พร้อม นายอนุชา รุ่งมรกต น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ และ น.ส.แอน (สงวนชื่อนามสกุล) ถูกเลิกจ้าง เนื่องจากมีทัศนคติทางการเมืองที่ขัดต่อแนวนโยบายของบริษัท และทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง ว่า ประเด็นที่มีพนักงานบางส่วน ระบุว่า ไม่ได้รับเป็นธรรมจากการเลิกจ้างเพราะแสดงออกทางการเมืองนั้น ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทได้มีการให้นโยบายไปแล้วว่า ในสถานการณ์การเมืองที่มีกฎหมายพิเศษ ก็ไม่ประสงค์ต้องการให้พนักงานไปกระทำการในลักษณะหมิ่นเหม่ที่จะละเมิดต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัท พนักงานกลุ่มที่ถูกเลิกจ้างที่ไปเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา มีกระทำการละเมิดนโยบายบริษัท จึงพิจารณาให้ออก โดยจ่ายเงินเยียวยาให้ตามสมควร โดยบางรายจ่ายให้ในจำนวนตามที่กฎหมายแรงงานที่กำหนด ไม่ใช่การไล่ออก
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นพนักงานที่ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ แต่เป็นการเลิกจ้างตามปกติในการทำธุรกิจเพื่อปรับลดขนาดองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากทางบริษัทได้ยุติการผลิตรายการบางรายการให้กับทางสถานีดิจิตอลทีวีบางช่อง และได้จ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานทุกประการ โดยการปรับลดพนักงานทั้งหมดในครั้งนี้ เป็นจำนวนเพียง 1 ใน 4 ของจำนวนพนักงานทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 80 คน
“ทางบริษัทยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาในการดำเนินการที่ผ่านมา ทางบริษัทไม่เคยมีทัศนคติเอนเอียงหรือฝักใฝ่ไปในทางเการเมืองทางใดทางหนึ่ง และให้อิสระในความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ได้จำกัดกรอบความคิดของพนักงาน ตราบใดที่พนักงานไม่มีการกระทำซึ่งเข้าข่ายส่งผลกระทบต่อกฎหมายและชื่อเสียงขององค์กร” แหล่งข่าว กล่าว
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ประชาไท รายงานว่า บริษัท ดรีมทีม เน็ตเวิร์ค จำกัด บริษัทผลิตรายการข่าวให้กับสถานีโทรทัศน์หลายช่อง ได้เลิกจ้างพนักงาน 4 ราย โดยให้เหตุผลว่า มีทัศนคติหรือเจตจำนงทางการเมืองที่ขัดต่อแนวนโยบาย และแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท ประกอบด้วย นายอนุชา รุ่งมรกต น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ และอีกคนหนึ่งคือ น.ส.แอน ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อจริง ขณะที่การเลิกจ้างพลักงานในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากการที่รายการบางรายการของบริษัทหมดสัญญากับช่อง และบางรายการถูกยกเลิกสัญญา ทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องปรับลดจำนวนพนักงานลง โดยมีพนักงานถูกเลิกจ้างทั้ง 21 คน โดย 16 คน ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด และบริษัทยินดีที่จะให้เงินชดเชยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มี 1 คน ถูกเลิกจ้างโดยมีฐานความผิดรับจ้างทำงานให้บริษัทอื่น และอีก 4 คน ถูกเลิกจ้างด้วยเหตุผลทางการเมือง
น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง โปรดิวเซอร์รายการของบริษัท เปิดเผยว่า นายอนุชา ช่างภาพรายการ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกจับกุมบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (ชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร) เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ถูกเลิกจ้างเป็นคนแรกในความผิดเดียวกัน บริษัทอ้างว่าการแสดงจุดยืนทางการเมืองของนายอนุชา อาจถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท อาจทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง และขัดต่อแนวนโยบายการดำเนินธรุกิจของบริษัท จากเดิมหากตัดเหตุผลทางด้านการเมืองออกไป เขาทำงานกับบริษัทมาเกิน 1 ปีแล้ว การที่จะเลิกจ้างควรได้เงินชดเชยทั้งหมด 3 เดือน แต่กลับได้เพียงเงินเยียวยาเพียง 1 เดือน
ส่วนกรณีของตน นายธนาพงศ์ และ น.ส.แอน โคโปรดิวเซอร์ ถูกเรียกเข้าพบ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกมีการแจ้งว่าจะเลิกจ้างทั้งสามคน เนื่องจากมีทัศนคติทางการเมืองที่ขัดต่อแนวนโยบายของบริษัท และทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง แต่ตนก็พยายามแสดงให้เห็นว่า ทั้ง 3 คน ไม่ได้แสดงตนว่าไปในนามของบริษัท หรือใช้ชื่อของบริษัทไปกระทำการใด และการออกมาที่หอศิลป์ครั้งนั้น ก็เป็นช่วงนอกเวลางาน ต่อมาถูกเรียกเข้าพบครั้งที่ 2 ได้มีการเจรจา เนื่องจากกรณีของทั้ง 3 คน ไม่ปรากฏลักษณะความผิดที่ชัดเจน บริษัทยินยอมที่จะให้เงินชดเชยครบตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องยอมเซ็นชื่อในใบลาออก พร้อมกับเซ็นชื่อในใบเลิกจ้าง เนื่องจากบริษัทต้องการปรับลดจำนวนพนักงาน ซึ่งไม่ได้ระบุฐานความผิดไว้
ทั้งนี้ บริษัทอ้างว่าเพื่อเป็นการป้องกันการถูกฟ้องร้องจากพนักงานทั้งสามคนในภายหน้า หากใครไม่ยอมรับเงื่อนไขก็จะให้ใบเลิกจ้างที่มีฐานความผิดทางการเมือง ซึ่งบริษัทย้ำว่าจะทำให้มีความลำบากในการหางานทำต่อไป และการให้เงินชดเชยในกรณีนี้อาจะได้รับไม่เต็มจำนวนตามที่กฎหมายกำหนด โดยตนและนายธนาพงษ์เลือกไม่เซ็นชื่อในใบลาออก และยืนยันว่า การแสดงออกทางการเมืองของตนเองมีความชอบธรรม ทั้งทางกฎหมายและหลักสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ขณะที่บริษัทได้จ่ายเงินชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด
“นี่เป็นเรื่องผิดกฎหมายเลยนะ มันบีบคอบังคับให้พนักงานเซ็นใบลาออก ซึ่งมันไม่ถูกต้อง ไม่มีเครื่องยืนยันได้เลยว่าเราจะได้รับสิทธิเหมือนกับกรณีที่ถูกเลิกจ้าง เพราะบริษัทก็อาจจะอ้างได้ว่า คุณลาออกเอง แล้วก็มีหลักฐานครบ ฉะนั้น เรา กับ ธนาพงษ์ ไม่ยอมเซ็น ส่วนน้องอีกคนจำเป็นต้องเซ็น เพราะกังวลปัญหาในอนาคต เนื่องจากวางแผนจะไปเรียนต่อต่างประเทศ” น.ส.ชุมาพร กล่าว
ทั้งนี้ น.ส.ชุมาพร เห็นว่า การเลิกจ้างพนักงานด้วยเหตุผลทางการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่ชอบธรรม เพราะตลอดช่วงเวลาที่ตนทำงานมา ไม่เคยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในนามของบริษัท การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องของปัจเจก และงานที่ตนทำก็ไม่ได้มีการสอดแทรกประเด็นทางการเมืองที่โน้มเอียงเข้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทุกครั้งที่มีประเด็นทางสังคม หรือประเด็นทางการเมืองที่เป็นข้อถกเถียงกันในสังคม ตนก็จัดรายการโดยการเชิญแขกรับเชิญที่มีความคิดหลากหลาย การกระทำของบริษัทในครั้งนี้ทำให้ตนไม่มั่นใจว่า มีสาเหตุที่แท้จริงจากอะไร
สำหรับบริษัท ดรีมทีม เน็ตเวิร์ค จำกัด เป็นบริษัทโปรดักชันเฮาส์ที่รับผลิตรายการข่าวให้กับสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี และ ทีวีดิจิตอลหลายรายการ อาทิ รายการห้าเช้าข่าวใหญ่ รายการข่าวปริศนาท้าหลอน รายการหมายจับกับบรรจง ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5, รายการข่าวของสถานีโทรทัศน์นิวส์ทีวี และรายการ ยกทัพข่าวเช้า สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี โดยมี นางวาสนา ทิพย์สุวรรณ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท, นายดิษฐา ดั่นคุ้ม เป็นรองกรรมการผู้จัดการ สายงานอำนวยการ และมี นายสมภพ รัตนวลี อดีตหัวหน้าทีมโปรดิวเซอร์ และบรรณาธิการบริหาร สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจสื่อ
