เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ข้อมูลล่าสุดระบุ มีพลเมืองมากกว่า 2,000 ราย จากประเทศสมาชิกขององค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization : SCO) ที่เดินทางออกนอกประเทศบ้านเกิดของตนเพื่อไปเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งทั้งหลาย
รายงานข่าวที่มีการเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (29 มิ.ย.) ซึ่งอ้างการออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนของตาอาลาย มูซาบาเยฟ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายประจำภูมิภาคขององค์กรเอสซีโอ (SCO Regional Anti-Terrorist Center) ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา มีพลเมืองมากกว่า 2,000 ชีวิต จากประเทศสมาชิกของกลุ่มองค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) เดินทางไปเข้าร่วมกับกลุ่มนักรบหัวรุนแรงที่มีแนวคิดสุดโต่งหลายกลุ่มในต่างประเทศ
ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่แห่งศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายประจำภูมิภาคของเอสซีโอ ระบุว่า ในจำนวนกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งที่พลเมืองจากชาติสมาชิกเอสซีโอเดินทางไปเข้าร่วมด้วยนั้น มีรายชี่อของกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) แห่งอิรักและซีเรีย, กลุ่มแนวร่วมอัล-นุสราในซีเรีย ตลอดจนเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในหลายประเทศทั้งในภูมิภาคตะวันออกกลางและทวีปแอฟริการวมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม มูซาบาเยฟยอมรับว่า จนถึงขณะนี้มีพลเมืองจำนวนหนึ่งของประเทศสมาชิกเอสซีโอที่เดินทางไปเข้าร่วมกับพวกสุดโต่งได้เสียชีวิตแล้วจากการสู้รบหรือปฏิบัติการทางทหารในรูปแบบต่างๆ
แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ พลเมืองของกลุ่มประเทศเอสซีโอที่เดินทางกลับมายังประเทศบ้านเกิดของตนหลังจากไปเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งต่างๆ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ได้กลับเข้าประเทศมาพร้อมกับทักษะการต่อสู้ การใช้อาวุธ และเทคนิคการวางแผนก่อการร้ายรูปแบบต่างๆ ซึ่งอาจถูกนำมาใช้ในการก่อเหตุโจมตีหรือบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศบ้านเกิดได้
ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่แห่งศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายประจำภูมิภาคของเอสซีโอระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศสมาชิกเอสซีโอซึ่งประกอบด้วยรัสเซีย จีน ทาจิกิสถาน คีร์กิซสถาน อุซเบกิสถาน และคาซัคสถานจะต้องหันมายกระดับความร่วมมือด้านข่าวกรองและความมั่นคงระหว่างกันให้มากขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคุกคามนี้
ทั้งนี้ องค์กร Shanghai Cooperation Organization เดิมใช้ชื่อว่า “กลุ่มเซี่ยงไฮ้ 5” (Shanghai Five) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1996 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคงระหว่างสมาชิกแรกก่อตั้ง 5 ประเทศ คือ จีน รัสเซีย ทาจิกิสถาน คีร์กิซสถาน และคาซัคสถาน แต่เมื่อมีการรับเอาอุซเบกิสถานเข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 6 เมื่อปี 2001 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อองค์กรมาเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน