เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ค.) ขยับลงเล็กน้อย จากความกังวลต่อปัญหาอุปทานล้นตลาดหวนคืนมาอีกครั้ง หลังพบกำลังผลิตสหรัฐฯฟื้นคืนมาในบางพื้นที่ ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำปิดลบ ท่ามกลางความวิตกต่อวิกฤตการเงินกรีซ
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 14 เซ็นต์ ปิดที่ 59.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 48 เซ็นต์ ปิดที่ 64.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
คอมเมิร์ซแบงก์ระบุว่า แนวโน้มราคาน้ำมันที่่ค่อยๆ ขยับขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยเหล่าบริษัทพลังงานระงับปฏิบัติการขุดเจาะในสหรัฐฯ ตอบสนองต่อภาวะอุปทานล้นตลาด
อย่างไรก็ตาม คอมเมิร์ซแบงก์บอกว่า จากข้อมูลล่าสุดพบว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ที่ยุติปฏิบัติการเพิ่มเติมแค่ 11 แห่ง เหลือที่ยังปฏิบัติการอยู่ 668 แห่ง นับเป็นการลดลงของจำนวนแท่นขุดเจาะที่ยังปฏิบัติการอยู่ น้อยที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (11 พ.ค.) ขยับลงพอสมควร จากแรงฉุดกลุ่มพลังงาน และความกังวลว่าวิกฤตการเงินกรีซจะไร้ทางออก
ดาวโจนส์ ลดลง 85.94 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,105.17 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 10.77 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,105.33 จุด แนสแดค ลดลง 9.98 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,993.57 จุด
เบื้องต้นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของจีนสนับสนุนหุ้นในเอเชียและยุโรปบางแห่ง ทว่าราคาน้ำมันที่ปรับลดฉุดให้หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นตัวถ่วงของดัชนีเอสแอนด์พี 500
ในอีกด้านหนึ่ง แม้ข้อมูลภาคแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของอเมริกากำลังฟื้นตัวร้อนแรงขึ้น แต่เรื่องนี้เป็นข่าวเก่าไปแล้วสำหรับวันจันทร์ (11 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนหันไปจับตามองความเป็นไปได้ที่กรีซอาจต้องออกจากยูโรโซน
แม้กรีซได้ชำระหนี้วงเงิน 750 ล้านยูโร แก่กองทัพการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หนึ่งวันก่อนครบกำหนด แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะยับยั้งความกังวลต่อปัญหาในการชำระหนี้ในงวดถัดๆ ไป
ความกังวลที่หวนคืนมาอีกครั้ง เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กรีซอาจต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน ฉุดให้ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และเป็นผลให้ราคาทองคำในวันจันทร์ (11 พ.ค.) ปิดลบพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,183.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์