น้ำมัน-ทองคำลง หุ้นสหรัฐฯร่วงหนักจากแรงขายส่งท้ายปี

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ตลาดน้ำมันปิดลบอีกในวันพุธ (31 ธ.ค.) สิ้นสุดปีด้วยการทำสถิติเป็นปีที่ราคาร่วงหนักนับตั้งแต่วิกฤตการเงิน 2008 ท่ามกลางอุปทานเกินความต้องการและเศรษฐกิจชะลอตัว ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งแรง จากแรงขายส่งท้ายปี เช่นเดียวกับทองคำที่ถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 85 เซ็นต์ ปิดที่ 53.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2009 ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 57 เซ็นต์ ปิดที่ 57.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ในปีนี้น้ำมันตลาดสหรัฐฯ ขยับลงมาราวๆ ร้อยละ 46 ส่วนเบรนต์ลอนดอนปรับลดร้อยละ 48 โดยการดิ่งลงอย่างกราวรูดเกิดขึ้นนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ในขณะที่เวลานั้นราคาแกว่งตัวอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ผลผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของอเมริกาและแคนาดา เป็นปัจจัยที่ก่อปัญหาอุปทานล้นตลาดในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลกกำลังชะลอตัว เช่นเดียวกับชาติเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่อื่นๆ ขณะที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับภาวะถดถอยและเศรษฐกิจ 18 ชาติยูโรโซน ก็อยู่ในสถานการณ์ที่เกือบๆ จะหยุดชะงัก

นอกจากนี้ การตัดสินใจของโอเปกเมื่อเดือนที่แล้ว ที่มีมติไม่ลดกำลังผลิต แม้ว่าราคาน้ำมันจะดิ่งลงมาอย่างมาก ก็ก่อแรงกดดันต่อราคาน้ำมันหนักหน่วงยิ่งขึ้น

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธ (31 ธ.ค.) ปิดลบหนัก แต่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นแค่แรงเทขายในนาทีสุดท้ายก่อนสิ้นปี ขณะที่ความเคลื่อนไหวของดาวโจนส์ตลอดทั้งปี 2014 ทำสถิติเป็นปีที่ขยับขึ้นปีที่ 6 ติดต่อกัน

ดาวโจนส์ ลดลง 160.00 จุด (0.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,823.07 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 21.46 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,058.90 จุด แนสแดค ลดลง 41.39 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,736.05 จุด

“มันเป็นแค่แรงขายในนาทีสุดท้าย เป็นการขายส่งท้ายปี” ปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักเศรษฐศาสตร์การตลาดจากร็อคเวลล์ โกลบอล แคปิตอล “เพราะว่ามูลค่าการซื้อขายเบาบาง สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นแค่การขยับลงทางเทคนิค ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทางพื้นฐาน”

ส่วนราคาทองคำวานนี้ (31 ธ.ค.) ก็ขยับลงแรง ตามน้ำมันที่ปิดลบ หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 16.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,184.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์