มาตรการพยุงเงิน “รูเบิล” ด้วยการที่ธนาคารกลางรัสเซียประกาศขึ้นดอกเบี้ยรวดเดียว 6.5% จาก 10.5% เป็น 17% ตอนกลางดึกคืนวันจันทร์ (15 ธ.ค.) ยังคงไร้ผล อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินตรารัสเซียกลับดำดิ่งสร้างสถิติต่ำสุดครั้งใหม่ในวันอังคาร (16) เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยที่น้ำมันดิบชนิดเบรนท์ตกเฉียดระดับ 59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปี ตอกย้ำให้เห็นว่าเศรษฐกิจแดนหมีขาวมีแนวโน้มถดถอยรุนแรงในปีหน้า
ในวันอังคาร ค่าเงินรูเบิลหล่นลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งย่างเข้าช่วงบ่ายของกรุงมอสโก อยู่ที่ 73 รูเบิลแลกได่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ และกว่า 90 รูเบิลแลกได้ 1 ยูโร หลังจากสามารถดีดกลับได้เพียงช่วงสั้นๆ มาอยู่ที่ 61 รูเบิลต่อดอลลาร์ สืบเนื่องจากธนาคารกลางรัสเซียประกาศตูมตอนกลางดึกขึ้นดอกเบี้ยทีเดียว 6.5% ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อหยุดยั้งการดำดิ่งของค่าเงิน
นับจากต้นปีจนถึงขณะนี้ อัตราแลกเปลี่ยนแดนหมีขาวลดลงไปแล้วกว่า 50% ท่ามกลางภาวะราคาน้ำมันดิ่งฮวบ และมาตรการลงโทษของตะวันตกจากกรณีที่รัสเซียให้การสนับสนุนกบฏแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออก
การดิ่งลงของค่าเงินรูเบิลสะท้อนสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเรียกว่า วิกฤตความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจรัสเซีย ขณะที่เครมลินกำลังเผชิญหน้ากับตะวันตก
แนวโน้มเศรษฐกิจติดลบรุนแรงถือเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน เพราะการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและสร้างความมั่งคั่งต่อเนื่องของรัสเซียยาวนานหลายปี
นิโคไล เปตรอฟ ศาสตราจารย์จากไฮเออร์ สกูล ออฟ อิโคโนมิกส์ ในมอสโก ชี้ว่า ปัญหาสำคัญคือ รัฐบาลตามไม่ทันผลแง่ลบจากการตัดสินใจทางการเมือง และสิ่งสำคัญคือ การป้องกันไม่ให้ประชาชนแตกตื่น
ค่าเงินรูเบิลอยู่ในอาการร่อเร่ เมื่อทำสถิติต่ำสุดในคืนวันจันทร์ (15) ที่ 64.4 รูเบิลต่อดอลลาร์ ลดลง 9.5% ในวันเดียว ซึ่งถือเป็นการลดลงรุนแรงที่สุดในรอบ 1 วันนับจากรัสเซียเผชิญวิกฤตการเงินในปี 1998
การอ่อนค่าของรูเบิลมีขึ้นขณะที่ธนาคารเตือนว่า ราคาน้ำมันตกต่ำอาจทำให้เศรษฐกิจหดตัวเกือบ 5% ในปีหน้า สืบเนื่องจากรายได้ครึ่งหนึ่งของรัสเซียมาจากน้ำมันและก๊าซ
ในวันอังคาร ค่าเงินรูเบิลหล่นลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งย่างเข้าช่วงบ่ายของกรุงมอสโก อยู่ที่ 73 รูเบิลแลกได่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ และกว่า 90 รูเบิลแลกได้ 1 ยูโร หลังจากสามารถดีดกลับได้เพียงช่วงสั้นๆ มาอยู่ที่ 61 รูเบิลต่อดอลลาร์ สืบเนื่องจากธนาคารกลางรัสเซียประกาศตูมตอนกลางดึกขึ้นดอกเบี้ยทีเดียว 6.5% ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อหยุดยั้งการดำดิ่งของค่าเงิน
นับจากต้นปีจนถึงขณะนี้ อัตราแลกเปลี่ยนแดนหมีขาวลดลงไปแล้วกว่า 50% ท่ามกลางภาวะราคาน้ำมันดิ่งฮวบ และมาตรการลงโทษของตะวันตกจากกรณีที่รัสเซียให้การสนับสนุนกบฏแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออก
การดิ่งลงของค่าเงินรูเบิลสะท้อนสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเรียกว่า วิกฤตความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจรัสเซีย ขณะที่เครมลินกำลังเผชิญหน้ากับตะวันตก
แนวโน้มเศรษฐกิจติดลบรุนแรงถือเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน เพราะการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและสร้างความมั่งคั่งต่อเนื่องของรัสเซียยาวนานหลายปี
นิโคไล เปตรอฟ ศาสตราจารย์จากไฮเออร์ สกูล ออฟ อิโคโนมิกส์ ในมอสโก ชี้ว่า ปัญหาสำคัญคือ รัฐบาลตามไม่ทันผลแง่ลบจากการตัดสินใจทางการเมือง และสิ่งสำคัญคือ การป้องกันไม่ให้ประชาชนแตกตื่น
ค่าเงินรูเบิลอยู่ในอาการร่อเร่ เมื่อทำสถิติต่ำสุดในคืนวันจันทร์ (15) ที่ 64.4 รูเบิลต่อดอลลาร์ ลดลง 9.5% ในวันเดียว ซึ่งถือเป็นการลดลงรุนแรงที่สุดในรอบ 1 วันนับจากรัสเซียเผชิญวิกฤตการเงินในปี 1998
การอ่อนค่าของรูเบิลมีขึ้นขณะที่ธนาคารเตือนว่า ราคาน้ำมันตกต่ำอาจทำให้เศรษฐกิจหดตัวเกือบ 5% ในปีหน้า สืบเนื่องจากรายได้ครึ่งหนึ่งของรัสเซียมาจากน้ำมันและก๊าซ